ชาวมูโนะจี้ทนายเอาจำเลย2ผัวเมียเคสโกดังพลุระเบิดเข้าคุก หลังผิดนัดจ่ายชดเชยค่าเสียหาย

 

ชาวมูโนะจี้ทนายเอาจำเลย2ผัวเมียเคสโกดังพลุระเบิดเข้าคุก หลังผิดนัดจ่ายชดเชยค่าเสียหาย

 

วันที่ 16 ก.ย. 67 ที่โรงยิมสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายโอฬาร กุลวิจิตร ประธานสภาทนายความภาค 9 พร้อมด้วย นายรังสฤษดิ์ ศรีสองคอน ประธานสภาทนายความจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยกรรมการศูนย์ยุติธรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายไซซูดิน หะมะ นายหะรูน แหละดี และนายประสิทธิ์ ศรีสืบ ได้เดินทางมาพบปะตัวแทนชาวตลาดมูโนะ ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟซึ่งตั้งอยู่ที่ตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ระเบิดขึ้น เมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 ในการแแจ้งข้อมูลความคืบหน้าการดำเนินคดี กับ นายสมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยุนุช พึ่งวิรวัฒน์ 2 สามีภรรยา เจ้าของโกดังฯ

 

ซึ่งในที่ประชุมได้มีตัวแทนชาวบ้านแจ้งกับนายโอฬาร ประธานสภาทนายความภาค 9 และคณะ โดยสรุปว่า 2 สามีภรรยา หลังแจ้งความประสงค์ต่อศาลขอยื่นประกันตัว เพื่อที่ไปหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายคืนให้แก่ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย ด้วยการวางที่ดิน 15 แปลงต่อศาลเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว แต่ 2 สามีภรรยาผิดนัดในการจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหาย โดยที่ตกลงกับชาวบ้านว่า 2 สามีภรรยาจะต้องจ่ายเงินในวันที่ 31 ก.ค.67 สำหรับชาวบ้านที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายในวันที่ 31 มี.ค.68 และในส่วนของชาวบ้านที่ทรัพย์สินเสียหายเกิน 1 หมื่นบาท 2 สามีภรรยาจะจ่ายในวันที่ 30 ก.ย. 67 เป็นงวดแรก ดูเหมือนลักษณะ 2 สามีภรรยามีความจงใจจะเบี้ยวหรือผิดสัญญา ชาวบ้านทุกคนต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ 2 สามีภรรยาเขายังใช้ชีวิตสุขสบายข้างนอก เหมือนเขายังคงมีความสุขบนทุกข์ของขาวบ้านตลาดมูโนะ

 

 

 

โดยนายโอฬาร ประธานสภาทนายความภาค 9 ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เมื่อ 2 สามีภรรยาผิดนัด ทางทนายความจะขอให้ทางศาลตั้งพนักงานบังคับคดี เพื่อทำการยึดทรัพย์ซึ่งอาจจะเป็นที่ดิน 15 แปลงที่ตั้งไว้กับศาลจึงขอให้ชาวบ้านเข้าใจกระบวนการที่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ต่อมาเมื่อนายโอฬาร ประธานทนายสภาทนายความภาค 9 ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วเสร็จ จึงเปิดเผยว่า ในกรณีคดีของมูโนะตั้งแต่ปี พ.ศ.2566 ในส่วนเฉพาะของคดีแพ่งที่ได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน ปรากฏว่าทางผู้เสียหายและจำเลยได้ทำข้อตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ซึ่งค่าเสียหายที่ฟ้องไว้เบื้องต้นทั้งหมด 300 กว่าล้านบาท แต่ทางศาลได้พยายามไกล่เกลี่ยซึ่งทางผู้เสียหายก็ได้ยอมรับในผลลัพธ์ของการไกล่เกลี่ย ซึ่งค่าเสียหายอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท ในระหว่างที่เรามีการเจรจาคดีนั้นทางฝ่ายจำเลยได้ขอประกันตัว เพื่อที่จะออกไปหาเงินและเอาทรัพย์สินต่างๆเอามาขายเพื่อชำระหนี้ให้กับชาวบ้าน ซึ่งทางศาลก็ ได้สอบถามทางผู้เสียหายผมที่เป็นทนายความก็มองว่าถ้าเกิดได้ประกันตัวออกไปแล้ว สามารถที่จะหาทรัพย์สินมาวางที่ศาลหรือขายทอดตลาดและนำเงินมาชำระหนี้ให้กับผู้เสียหายได้ ทางเราก็ได้มีการตกลงและไม่ได้คัดค้านในเรื่องของการประกันตัว ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็เอาที่ดินจำนวน 15 แปลง โดยมีตั้งแต่ของจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดสงขลาด้วย โดยศาลก็อนุญาตให้ประกันตัว อย่างไรก็ตามในส่วนของความเสียหายที่เกิดระเบิดขึ้น และทำให้มีผู้เสียชีวิตทางเขาได้มาชดใช้แล้วประมาณ 2 ล้านกว่าบาท แต่ในส่วนของคดีทางแพ่งจากการสอบถามชาวบ้านทั้งหมดแล้วยังไม่ได้มีการชำระหนี้แต่ประการใดๆ โดยมีการผิดนัดซึ่งต่อไปทางเราจะขอให้ทางศาลตั้งพนักงานบังคับคดี เพื่อทำการยึดทรัพย์ซึ่งอาจจะเป็นที่ดินทั้ง 15 แปลง ถ้าหากไม่พอก็จะยึดทรัพย์ที่ดินแปลงอื่นๆเพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับชาวบ้านเท่าที่เราจะหาได้
“ สิ้นเดือนกันยายนนี้จะเป็นงวดสุดท้ายที่นัดไว้ว่าจะมีการชำระ เพราะฉะนั้นเราก็รอให้ถึงสิ้นเดือนกันยายนเพื่อให้ครบกำหนดผิดนัดในทุกครั้ง ทางเราจะมีการตั้งพนักงานบังคับคดีเพื่อทำการยึดทรัพย์ แต่มาวันนี้ชาวบ้านแจ้งมาว่าเขาผิดนัดตั้งแต่งวดแรก ทางเราก็สามารถที่จะตั้งพนักงานบังคับคดีได้เลย แต่ถ้ามีการนำทรัพย์สินมาขายทอดตลาดน่าจะได้เงินน้อยกว่าที่ได้ตกลงให้มีการชำระหนี้ให้กับผู้เสียหาย โดยจะต้องมีการนำเงินที่ได้มาถัวเฉลี่ยกัน โดยที่คนเสียหายมากก็จะได้มากคนเสียหายน้อยก็จะได้น้อย “ นายโอฬาร ประธานทนายสภาทนายความภาค 9 กล่าว
นอกจากนี้ นายโอฬาร ประธานทนายสภาทนายความภาค 9 ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในส่วนของจำเลยที่ได้ขอต่อศาลในการนำหลักทรัพย์มาประกันตัว และทางผู้เสียหายเองก็ไม่มีการคัดค้าน เนื่องจากว่าเห็นว่าจำเลยนำทรัพย์มาวาง เพื่อที่จะมาชำระหนี้ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อถึงขณะนี้จำเลยมีการผิดนัด ทางเราจะมีการขอต่อศาลพิจารณาในเรื่องของการอนุญาตการปล่อยตัวชั่วคราว ในเมื่อจำเลยผิดนัดและชาวบ้านที่เสียหาย ซึ่งมีประมาณ 564 ราย อยากจะขอให้ศาลพิจารณา ในเรื่องของการไม่มีการชำระเงินใดๆมาเลย ดังนั้นจะขอให้ศาลพิจารณาในเรื่องของการปล่อยตัวชั่วคราวเพราะคิดว่าเมื่อจำเลยมีการผิดนัดแบบนี้ก็น่าจะอยู่ในเรือนจำเหมือนเดิม หรือจำเลยต้องการที่จะดิ้นรนเพื่อที่จะเอาเงินมาชำระหนี้ให้กับชาวบ้านได้
ขณะที่นางสาวนิฟารา เปาะอาแดะ 1 ในผู้เสียหายจากเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิด กล่าวว่า ตนสูญเสียบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ซึ่งที่ผ่านมาในเดือนเมษายน ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยและทำสัญญา โดยยอดแรกที่เขาจะชดใช้คือยอดของผู้เสียหายที่ไม่เกิน 10,000 บาท จะชดใช้ไม่เกินวันที่ 30 พฤษภาคม และตั้งแต่นั้นมาไม่มีการชำระเข้ามา ซึ่งทางเขาได้มีการผิดนัดทางเราก็เลยกังวล โดยมีทีมทนายความมาในวันนี้ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยทางทีมทนายความก็จะมีการตั้งพนักงานบังคับคดีในการยึดทรัพย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในกรณีของชาวบ้านเป็นกรณีของคดีแพ่ง ซึ่งชาวบ้านก็ได้มีการตั้งคำถามว่า เป็นแค่คดีแพ่งเขาก็แค่ติดคุกแล้วเค้าจะมีการชดใช้ค่าเสียหายไหม ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายคน ซึ่งทุกคนต้องเผชิญกับความลำบาก แต่คู่กรณีเขายังใช้ชีวิตสุขสบายข้างนอก เหมือนเขายังคงมีความสุขบนความทุกข์ของชาวบ้าน ครั้งนี้ก็เลยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีเป็นกรณีพิเศษเร็วที่สุด
ด้าน ด.ต.รูสลาม อาแว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ ได้เปิดเผยความคืบหน้าในการก่อสร้างบ้านเรือนของประชาชน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโกดังระเบิด หรือ จุดศูนย์กลางโซนไข่แดงที่เป็นสถานที่ตั้งของโกดังเก็บดอกไม้ไฟ ที่มีบ้านเรือนของประชาชน จำนวน 76 หลังนั้น ล่าสุด ชาวบ้านได้ดำเนินการหาผู้รับเหมาด้วยตนเองแล้วทุกราย โดยได้ทำสัญญาการสร้างบ้านกับผู้รับเหมา โดยจะมีการจ้างเงินเป็นงวดๆจากการควบคุมการจ่ายเงินของทางจังหวัดนราธิวาส โดยจะอนุมัติให้เฉพาะค่าวัสดุสร้างบ้านและค่าแรงตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งระยะเวลาในการก่อสร้างบ้านแต่ละหลังไม่เกิน 3 เดือน โดยล่าสุดทางผู้รับเหมาได้ทยอยตอกเสาเข็มบ้านของแต่ละหลัง และบางส่วนที่ตอกเสาเข็มแล้วเสร็จก็ได้มีการเริ่มสร้างบ้านแล้ว จำนวน 3 หลัง จากบ้านที่เสียหาย 76 หลัง

นราธิวาส/ข่าว-ซาการียา ดอเลาะ 0936193807

16 กันยายน 2567

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *