เยี่ยม ให้กำลังเหยื่อเด็กถูกกระทำ และสั่งกำชับบูรณาการผู้ภาคส่วนช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนายกเหลากาชาดแพร่ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ เด็ก ม.2 ที่ถูกวัยรุ่นเหยียบศีรษะ บังคับกราบเท้าและรีดเงิน จนกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลกออนไลน์ สั่งทีมสหวิชาชีพ-สารวัตรนักเรียนลงพื้นที่เยียวยาจิตใจและหาทางป้องกันแก้ไขเร่งด่วน ไม่ให้เกิดซ้ำรอย

เยี่ยม ให้กำลังเหยื่อเด็กถูกกระทำ และสั่งกำชับบูรณาการผู้ภาคส่วนช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนายกเหลากาชาดแพร่ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ เด็ก ม.2 ที่ถูกวัยรุ่นเหยียบศีรษะ บังคับกราบเท้าและรีดเงิน จนกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลกออนไลน์ สั่งทีมสหวิชาชีพ-สารวัตรนักเรียนลงพื้นที่เยียวยาจิตใจและหาทางป้องกันแก้ไขเร่งด่วน ไม่ให้เกิดซ้ำรอย

 

 

 

วันที่ 20 สิงหาคม 67 เวลา 16.30 น. นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย นางณัชชา มีจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ พร้อมทีมงานเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 ของโรงเรียนดังในจังหวัดแพร่ หลังมีการเผยแพร่คลิปนักเรียนดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกาย โดยวัยรุ่นรุ่นพี่ ใช้เท้าเหยียบศีรษะ บังคับให้กราบเท้า และรีดไถเงิน โดยมีการนำคลิปไปเผยแพร่กระฉ่อนโลกโซเชียล สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก หลังทราบเรื่อง

 

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง นำตัวผู้กระผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยวัยรุ่นหญิงที่ทำร้ายเด็กนักเรียน ม.2 ถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกาย, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ขู่กรรโชกทรัพย์” ขณะนี้ถูกควบคุมไว้ที่สถานพินิจเพื่อรับโทษตามกฎหมายแล้ว
นายชุติเดช กว่าวว่านายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โทรศัพท์สายตรงถึงผู้ว่าฯ แพร่ แสดงความเป็นห่วงพฤติกรรมเด็กและเยาวชน พร้อมให้กำลังใจเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 3 คน ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ห่วงการนำคลิปและรูปภาพมาเสนอซ้ำทางสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากจะเป็นการซ้ำเติม ตอกย้ำจิตใจเด็กและเยาวชนแล้ว ยังเสี่ยงต่อการกระทำผิดพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวอีกว่าได้สั่งการให้ทีมสหวิชาชีพจังหวัดเข้าไปดูแล เยียวยาจิตใจเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำ พร้อมกับให้ทีมสารวัตรนักเรียน ร่วมกับตำรวจเข้าไปสอดส่องดูแลความปลอดภัยและหาทางป้องกันการเกิดเหตุในพื้นที่เสี่ยง และแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นในจังหวัดแพร่อย่างเข้มงวด การจะห้ามไม่ให้เกิดเลยคงยาก แต่อย่างน้อยก็เป็นการป้องปรามไม่ให้มีพฤติกรรมกระทำรุนแรงขึ้นอีก พร้อมกับขอร้องให้คนในชุมชนช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล เยาวชนลูกหลานคนเมืองแพร่ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

 

ภาพ/ข่าว สำนักข่าวประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่

นางสาว สายรุ้ง ธรรมมี รายงาน จังหวัดแพร่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *