มาอีกแล้วแก๊งค์ลักรถหลังกล้องจับภาพสองหัวขโมยแสบขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้หน้าบ้านช่วยกันยกใส่รถพ่วงข้างขี่หลบหนีไปอย่างลอยนวล

มาอีกแล้วแก๊งค์ลักรถหลังกล้องจับภาพสองหัวขโมยแสบขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้หน้าบ้านช่วยกันยกใส่รถพ่วงข้างขี่หลบหนีไปอย่างลอยนวลภาพจากกล้องวงจรปิดที่จะเห็นว่ามีคนร้ายเป็นชายจำนวนสองคนได้ขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นสีและยี่ห้อแบบพ่วงข้างซ้อนท้ายกันมา แล้วก็มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านแล้วคนร้ายที่นั่งซ้านท้ายได้ลงจากรถแล้วเดินลงมาทำการเข็นรถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้หน้าบ้านออกไปในสภาพที่คอรถยังล็อกคอและล้อรถอยู่ พร้อมกับยกรถจักรยานยนต์ใส่พ่วงข้างข้างแล้วหลบหนีหายไปอย่างรวดเร็วต่อมาพ.ต.ต.วุฒิพงศ์ตาลำสารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านบึงได้รับแจ้งจากสายตรวจตำบลหนองอิรุณว่ามีเหตุคนร้ายลักรถจักรยานยนต์บริเวณบ้านพักริมถนนหนองชาก (เนินโมก) จึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิด พร้อมชุดสืบสวน พอเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 38 / 12 หมู่ 1 ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึงจังหวัดชลบุรีเป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียวและเปิดเป็นร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ได้พบกับนายไพบูลย์ ทัพอาสา อายุ 40ปีเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักขโมยหายไปกำลังยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับเปิดเผยว่าตนเองได้จอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่าสปีดสีบรอนซ์ ดำ หมายเลขทะเบียน ขรธ 1 จังหวัดนครราชสีมาเอาไว้ที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน2566จากนั้นได้ทำการล็อกคอดึงกุญแจออก และขึ้นไปพักผ่อนอยู่ชั้นที่สองของบ้านจนกระทั่งตื่นตอนเช้า ได้เปิดประตูบ้านออกมาทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่ตนเองจอดเอาไว้ ได้หายไปจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบพร้อมกับดูภาพจากกล้องวงจรปิดจนเห็นว่ามีชายสองคนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาก่อเหตุลักรถรถจักรยานยนต์ของตนใส่รถพ่วงไปอย่างภาพที่เห็นทางด้านนายไพบูลย์ผู้เสียหายยังเปิดเผยต่ออีกว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปผ่านมาทั้งที่ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนแท้ๆจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและนำรถจักรยานยนต์ของตนเองกลับมาคืนเพราะต้องใช้ขับขี่ไปทำงานทุกวันนี่ตอนนี้ไม่มีรถแล้วตนก็ต้องลำบากนั่งรถไปทำงานแน่นอน