นครพนม-แรงงานอิสราเอล แห่ยื่นขอเงิน”ปิซูอิม” เพียบ ผีซ้ำด้ามพลอยเจอล่าม คิดค่าตั๋วเครื่องบินแพงเกินจริง
*****
สงครามระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซารอบใหม่ มีแนวโน้มยืดเยื้อ นอกจากคู่ขัดแย้งโดยตรงแล้ว ยังมีตัวแสดงอื่นๆ ทั้งที่เป็นรัฐและไม่ใช่รัฐ ที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญอาจทำให้การสู้รบ มีโอกาสขยายวงเป็นสงครามระดับภูมิภาค หนึ่งในนั้นคือกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอน เท่ากับว่าอิสราเอลเจอศึกสองด้าน
ดังนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งประชาสัมพันธ์เตือนให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอลเดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด เนื่องจากอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์สู้รบรุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล รวมถึงเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อการอพยพ ด้วยความห่วงใยคนไทยในอิสราเอล จึงเรียกร้องให้เดินทางกลับไทยโดยเร็วที่สุด และขอให้ญาติพี่น้องที่อยู่ในไทย ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังอยู่ในอิสราเอล เปลี่ยนใจกลับมาโดยเร็วที่สุดฯ
ทางด้าน นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่านายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน มีหนังสือเวียนถึงหน่วยงานในสังกัดทั้ง 76 จังหวัด ประชาสัมพันธ์ถึงครอบครัวแรงงานไทยให้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยด่วน นอกจากนี้รัฐบาลมีแนวทางช่วยเหลือคนงาน โดยให้กู้ยืมเงินจำนวน 150,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 0.01 % มีระยะเวลาในการใช้คืนประมาณ 20 ปี เพื่อให้แรงงานเดินทางกลับเมืองไทย ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่น
โดยมีคนงานที่เดินทางกลับ นำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่จำนวนมาก นอกจากจะมาขอเงินค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว ยังลงรายละเอียดขอเงินชดเชย กรณีถูกเลิกจ้าง หรือเรียกว่าเงินปิซูอิม และเงินค่าจ้างค้างจ่าย รวมถึงเงินเหมาแท็กซี่ไปส่งที่สนามบินด้วย โดยเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนมีการคืนค่าตั๋วเครื่องบิน ในกรณีคนงานจ่ายเงินเอง มีคนงานที่เดินทางกลับหลังเกิดการสู้รบ มาลงทะเบียนไว้แล้วจำนวนหนึ่ง แต่ตอนนั้นยังไม่มีคำสั่งเป็นทางการ เมื่อมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ก็จะเรียกคนงานเหล่านั้นมาลงในแบบฟอร์ม เพื่อขอรับเงินค่าตั๋วเครื่องบินคืน
ขณะเดียวกัน นายอุเทน ยืนยง อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ต.ดงขวาง อ.เมืองนครพนม หอบเอกสารมาลงในแบบฟอร์ม ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน เงินปิซูอิม และเงินค่าแรงงวดเดือนกันยายน โดยเปิดเผยว่าทางเอเย่นต์หรือเรียกกันว่าล่ามในอิสราเอล เป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด แล้วจะไปคิดเงินกับนายจ้างเพื่อหักเงินจากค่าแรง ซึ่งในตั๋วเดินทางล่ามซื้อในราคา 816 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยดอลล่าร์ละ 36 บาท ราคาตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ 29,376 บาท แต่ล่ามกลับไปคิดกับนายจ้าง 2,500 เชคเกลอิสราเอล เป็นเงิน 75,000 บาท เมื่อนำเอกสารมาขอเงินค่าตั๋วคืน เจ้าหน้าที่ก็คิดตามราคาที่ซื้อจริง
ด้าน นายรัตนพล รินทอน อายุ 29 ปี ชาวบ้าน ต.โพนแพง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ยื่นเรื่องขอเงินค่าแท็กซี่จำนวน 500 เชคเกล หรือคิดเป็นเงินไทย 15,000 บาท และเงินสะสมที่ยังไม่ได้ประมาณ 10,000 เชคเกล หรือราว 310,000 บาท ไม่ต่างจากนายธนพงษ์ ยงยันต์ หรือนิค อายุ 25 ปี ชาวบ้าน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ที่เพิ่งไปทำงานในสวนแอปเปิ้ลได้เพียง 4 เดือน มายื่นแบบฟอร์มขอเงินเดือนค้างจ่าย จำนวน 6,000 เชคเกล หรือประมาณ 180,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้เรียบร้อย ส่วนจะได้เงินวันไหนขึ้นอยู่ที่นายจ้างในอิสราเอล
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)
