ลำปาง -ชาวบ้านหัวเสือ อ.แม่ทะ ร้องตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ผญบ.ถูกชาวบ้านร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสเรื่องการเงินของวัด

ลำปาง -ชาวบ้านหัวเสือ อ.แม่ทะ ร้องตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ผญบ.ถูกชาวบ้านร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสเรื่องการเงินของวัด

 

 

 

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2567 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคนึงกิจ พรหมนุชานนท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง นายนายฐิติพัฒน์ จำลองปั้น ปลัดอำเภอแม่ทะ พร้อมด้วย นายไพบูลย์ เจนแพทย์ นางโสภิณ กระจาย ตัวแทนชาวบ้านหัวเสือ นายสนัด กุลพินิจมาลา ผญบ.บ้านหัวเสือ และคณะสงฆ์นำโดย พระครูสิริรัตนกิจ รองเจ้าคณะอำเภอแม่ทะ เจ้าอาวาสวัดสามขา พระครูปลัดสันติสุข ญาณเมธี

 

 

 

เจ้าคณะตำบลหัวเสือ เขต 1 วัดบ้านหัวทุ่ง และชาวบ้านรวมกว่า 30 คน ร่วมรับฟังการชี้แจงและตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ผญบ.หัวเสือ อ.แม่ทะ ถูกชาวบ้านร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส เมื่อวันที่ผ่านมา ที่ศาลาวัดหัวเสือ ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567 นายไพบูลย์ และนางโสภิน ตัวแทนชาวบ้านหัวเสือ ได้มีหนังสือเรียนร้อง ถึง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการเงินของวัดหัวเสือเนื่องจาก ผญบ.บ้านหัวเสือ วางอำนาจเข้าครอบงำกิจการภายในวัดไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่เห็นหัวใคร เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2567 ได้รับแจ้งจากพระบุญฤทธิ์เจ้าอาวาสในขณะนั้นเห็นว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2567 นายสนัดได้ขายไม้ศาลาหลังเก่าที่ลื้อไปเก็บไว้ใต้กุฎิขาย แล้วนำงินมาเป็นของตนเอง โดยขายไปให้กับคน จ.จันทบุรี ศาลาบาตรหลังเก่าที่ลื้อไปไม้โครงสร้างได้เอาไปเก็บไว้ที่ใด ซึ่งศาลาบาตรที่จะสร้างใหม่นั้น ผญบ.เป็นผู้รับเหมาทำเอง เงินที่ใช้ในการก่อสร้างได้มาจากการบริจาค

 

ดังนั้นจึงกังวลว่าจะเกิดความไม่โปร่งใส จะเป็นการใช้ศาสนาหากินของกลุ่มคนได้ รายได้ที่เกิดจากการทำบุญในกิจกรรมของวัดผู้ใดเป็นผู้เก็บรักษา เงินรายได้ของวัดที่เกิดจากการบริจาคทุกอย่าง ผญบ.จะเป็นผู้เก็บแบบงุบงิบไม่แสดงรายรับรายจ่ายให้กรรมการได้รับทราบ ดังนั้นเพื่อความสบายใจและโปร่งใสจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านได้โปรดมาตรวจสอบการเงินวัดหัวเสือ หากพบการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายให้ท่านดำเนินการตามกฎหมายนั้นๆตามพฤติกรรมต่อไป

นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า การกระทำของ ผญบ.บ้านหัวเสือ ที่กระทำตนเป็นผู้สำเร็จราชการงานทุกอย่างภายในหมู่บ้าน แม้กระทั่งงานของวัดและชุมชน จะเป็นผู้จัดการ ตลอดจนถึงการเงินการทอง ทั้งหมด อยู่ในมือของ ผญบ.เป็นผู้เก็บรักษาแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่แจ้งรายละเอียดรายการรับ รายการจ่ายให้ราษฎรในหมู่บ้านได้รับทราบ จึงเป็นที่มาของคำร้องโดยสรุป 1.ได้ขายไม้จากการรื้อศาลาการเปรียญหลังเก่า 2.ได้ขายไม้บางส่วนจากการรื้อศาลาบาตรของทางวัด 3.เงินจากการจัดกิจกรรมของทางวัดช่วงระยะเวลาในปี 2566-2567 4. เงินที่ชาวบ้านบริจาคสร้างรั้วข้างศาลารวมใจในปี 2566 5. เงินบริจาคจากงานกฐิน ผ้าป่า และงานบวช ที่ราษฎร่วมบริจาค ไม่แจ้งรายรับ-รายจ่าย ไม่นำเข้าบัญชีของวัด 6. งานบริจาคสร้างปรับเปลี่ยนศาลาบาตร ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้รับเหมาทำเอง และ 7. งานซ่อมปรับปรุงซุ้มประตูของวัดหัวเสือซึ่งประมูลในราคา 800,000 บาท รับเงินจาก คณะกรรมการวัดไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปจ่ายให้ผู้รับเหมา แต่งานก่อสร้างยังไม่ถึง 50 % โดยทุกข้อไม่แจ้งรายละเอียดรายการรับ รายการจ่ายให้ชาวบ้านทราบและไม่นำเงินไปฝากในบัญชีของวัด โดยผู้ร้องได้ส่งคำร้องพิจารณาเพื่อสั่งการของผู้มีอำนาจต่อไป

เบื้องต้นนายสนัด พร้อมที่จะชี้แจงรายละเอียดทุกข้อและยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ใจและจากการพิจารณาคำร้องและคำชี้แจงเบื้องต้น ทางด้านคณะกรรมการดังกล่าว ได้ให้เวลานายสนัดภายในเวลา 7 วัน ไปเขียนคำชี้แจงตามข้อกล่าวหา พร้อมเอกสาร หลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ส่งเจ้าคณะตำบลหัวเสือ เขต 1 ตามขั้นตอน เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการดังกล่าวพิจารณาตัดสินแก้ข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งให้ผู้ร้องทราบจนเป็นที่พอใจเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายภายในวันที่ 20 พ.ค.2567 นี้.

 

 

วินัย/ลำปาง รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *