เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในจังหวัดแพร่ ยังคงทำงานอย่างหนัก เพื่อดับไฟที่มีคนจุดเผาป่าและไหม้ริมทางเพื่อควบคุมการเกิดจุดความร้อนและสร้างมลพิษทางอากาศ

เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในจังหวัดแพร่ ยังคงทำงานอย่างหนัก เพื่อดับไฟที่มีคนจุดเผาป่าและไหม้ริมทางเพื่อควบคุมการเกิดจุดความร้อนและสร้างมลพิษทางอากาศ

 

วันที่ 1 เมษายน 2567 ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าของจังหวัดแพร่ จัดทีมเข้าดับไฟในพื้นที่รับผิดชอบ ตามที่ได้รับแจ้งจากศูนย์แจ้งจุด Hotspot แพร่ ซึ่งจากรายงานสถานการณ์ Hotspot ประจำวันที่ 1 เมษายน 2567 ทั้ง 2 ช่วงเวลา ดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อนเกิดขึ้น รวม 60 จุด โดยพบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 30 จุด , พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 21 จุด , พื้นที่ เขต สปก. 9 จุด


ในแขวงทางหลวงแพร่ และเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงวังชิ้น พร้อมรถบรรทุกน้ำ เข้าดับไฟบริเวณริมทางหลวงทันทีที่ได้รับแจ้ง เพื่อไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่ป่า และยากต่อการเข้าไปดับ โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ให้กำชับทุกหน่วยที่รับผิดชอบเขตพื้นที่ให้ควบคุมจุด Hotspot ให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดแพร่ ส่งชุดปฎิบัติการสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ นำยานยนต์ดังเพลิงฉีดพ่นละอองน้ำควบคุมระยะทางไกล จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย ฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดค่าฝุ่นละอองและเพิ่มความชื้นในอากาศ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 บริเวณบ้านเอื้ออาทร อ.เมืองแพร่ และที่บริเวณโรงเรียนบ้านทุ่งแค้ว อ.หนองม่วงไข่ ซึ่งบริเวณหลังโรงเรียนเป็นวัด และชุมชน


นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) ได้ดำเนินการตรวจสอบจุดความร้อน (Hotspot) และเข้าพื้นที่เพื่อดับไฟป่า และทำแนวกันไฟในส่วนที่ไม่สามารถเข้าไปดับได้ เนื่องจากเป้นพื้นที่สุงชัน โดยสาเหตุหลักๆมาจากการลักลอบเผาของคนหาของป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ป้องกันการเข้าป่าของบุคคลเหล่านี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว  สำนักงานประชาสัมธ์ จังหวัดแพร่

นางสาว สายรุ้ง ธรรมมี รายงาน

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *