ลำปาง-กำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการเรือแพเขื่อน

ลำปาง-กำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการเรือแพเขื่อน

เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2567 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท่าเรือแพสำเภาทอง ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา อ.เมืองลำปาง มอบหมายให้ นายนิพลน์ ศรีวิลัย หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน พร้อมด้วย

นายพิทักษ์ ยศแก้วอุด นายช่างชลประทานปฏิบัติงาน และนายนเรศ หมายหมั้น นายช่างชลประทาน และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและความก้าวหน้าการกำจัดวัชพืชที่ผ่านมา พร้อมรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม อ.เมืองลำปาง

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ได้ดำเนินการกำจัดวัชพืช จอกแหนในเขื่อนกิ่วลมตามแผนงานในปี 2567 ไปแล้วจำนวน 525.08 ไร่ 42,006 ตัน คิดเป็น 72.13% และยังมีวัชพืชบริเวณท่าแพสำเภาทองที่ต้องเร่งกำจัดให้แล้วเสร็จอีก จำนวน 202.92 ไร่ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการเรือแพเขื่อนกิ่วลม-สำเภาทอง ให้สามารถประกอบอาชีพได้ ทั้งนี้ หากการดำเนินงานแล้วเสร็จจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับชุมชนในพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยให้การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนกิ่วลมเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป

สำหรับปัญหาจอกแหนและวัชพืชลอยปกคลุมเหนือน้ำในเขื่อนเกิดขึ้นเกือบทุกปี โดยหน่วยงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งนี้ การแก้ปัญหาสำหรับในเรื่องกำจัดจอกแหนวัชพืชขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในแผน และมั่นใจว่าจะสามารถกำจัดได้หมดภายในปีนี้ ซึ่งจากสถิติวัชพืชจอกแหนย้อนหลังเมื่อปี 2565 มีประมาณ 3,300 ไร่ ก็เก็บกำจัดเรื่อยมาจนปี 2566 เหลือประมาณ 2,100 ไร่ และปี 2567 นี้เหลืออยู่ประมาณ 1,300-1,400 ไร่ ตามแผนงานในปี 2567 ทำไปแล้วจำนวน 525.08 ไร่ 42,006 ตัน คิดเป็น 72.13% และยังมีวัชพืชบริเวณท่าแพสำเภาทองที่ต้องเร่งกำจัดให้แล้วเสร็จอีก จำนวน 202.92 ไร่

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2567 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน นักท่องเที่ยว 50 คน จากแพ 2 ลำ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจาก จ.พะเยา และ จ.เชียงใหม่ ที่เข้ามาเที่ยวล่องแพแบบล่องพักค้างคืนในช่วงท่องเที่ยวตรุษจีน ติดอยู่กลางเขื่อนกิ่วลม เขต อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เนื่องจากถูกลมตีจอกแหนที่ลอยอยู่ในน้ำไหลมาล้อมแพจนไม่สามารถล่องออกมาได้ติดอยู่บนแพนานกว่า 7 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุ นายชาญ จูดคง นอภ.แจ้ห่ม เจ้าหน้าที่เขื่อน พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีตำบลบ้านสา หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบให้ความช่วยเหลือนัก จนเรือแพสามารถเดินทางกลับฝั่งได้ โดยปลอดภัยโดยเหตุการณ์ดังกล่าว นอภ.แจ้ห่มได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างยั่งยืนต่อไป

.

วินัย/ลำปาง รายงา