เริ่มแล้ว..! เปิดปฏิบัติการ กู้เรือรบหลวงสุโขทัย กลางทะเลบางสะพาน

เริ่มแล้ว..! เปิดปฏิบัติการ กู้เรือรบหลวงสุโขทัย กลางทะเลบางสะพาน

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท่าเรือประจวบ ตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรือหลวงบางระจัน เรือหลวงมันใน เรือ ต.997 ต.998 ได้เข้ามาจอดเทียบท่าตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจ กู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัดในช่วงเช้า โดยความร่วมมือระหว่าง กองทัพเรือไทย และ กองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติภารกิจในห้วงวันที่ 22 ก.พ. – 14 มี.ค. 67

มีภาระกิจหลักคือการสำรวจภายนอกตัวเรือหลวงสุโขทัย ค้นหานายทหารเรือที่สูญหายอีก 5 นาย เก็บยุธโธปกรณ์ ปลดวัตถุอันตราย รวมถึงการเก็บกู้สิ่งที่มีค่าทางจิตใจของกำลังพลกองทัพเรือ
ต่อมา เมื่อเวลา 05.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ได้นำสื่อมวลชนกว่า 40 คน ที่มีรายชื่อลงทะเบียนขึ้นรถบัสของ ทร.จากหาดทรายแก้วรีสอร์ท นำไปขึ้นเรือหลวงมันใน 783 และ ต.998 เพื่อออกเดินทางไปยังเรือหลวงอ่างทอง ที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลห่างจากชายฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล บริเวณใกล้ กับจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอัปปางโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าวจะอยู่บนเรือหลวงอ่างทองจนเสร็จสิ้นภารกิจ จากนั้น พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผบ.ทร. เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่เรือหลวงอ่างทอง จากนั้นเดินทางต่อไปยังเรือ OCEAN VALOR ของกองทัพเรือสหรัฐ เพื่อร่วมบัญชาการปฏิบัติกู้เรือสุโขทัย เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ผบ.ทร.จะเดทางกลับไปที่เรือหลวงอ่างทอง เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบริเวณโรงเก็บอากาศยาน

ด้าน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาประจวบคีรีขันธ์ ออกประกาศที่ 20/2567 เรื่องให้ระมัดระวังการเดินเรือ โดยระบุว่า ด้วยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจาก กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ (หมวดเรือค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย) ว่ามีแผนปฏิบัติภารกิจการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางลง ระหว่างวันที่ 19 ก.พ. – 12 มี.ค. 2567 เป็นการเร่งด่วน โดยมีกองเรือยุทธการ กองทัพเรือเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้
ต่อมาเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ก.พ. 2567 พล ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือไปยังเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งจอดประจำการอยู่ในบริเวณพื้นที่ในการปฎิบัติภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัย(แบบจำกัด) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย กองสะอาด ผบ.กองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะของ ผบ.ทร. ได้ขึ้นเรือ ต.998 ไปยังเรือ Ocean Valor ของกองทัพเรือสหรัฐฯที่จอดปฎิบัติงานห่างออกไปประมาณ 3 ไมล์ทะเล เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจในการร่วมปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ส่งเรือ Ocean Valor พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยประดาน้ำ และกู้ซ่อมเคลื่อนที่ (Mobile Dive and Salvage Unit) มาร่วมปฎิบัติการในครั้งนี้ด้วย

พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ทางกองทัพเรือต่อขอขอบคุณทองทัพเรือสหรัฐที่ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เรือ ocean valor เป็นเรือเปล่าที่ต้องทำการขนอุปกรณ์ต่างๆขึ้นเครื่องบินจากฮาวาวมาลงที่สิงคโปร์และนำอุปกรณ์ต่างๆขึ้นบนเรือocean valor เพื่อมาปฏิบัติภาระกิจในครั้งนี้ โดยการดำสำรวจจะมีนักดำชุดละ3นาย นักดำ 2 นายอยู่ใต้น้ำ นักดำสำรอง 1นายต่อหนึ่งชุด โดยนักดำของไทยมีจำนวน 35คน นักดำ สหรัฐมี 14 คน เวลาดำลงถึงใต้ท้อง10 นาที มีเวลาทำภาระกิจ ชุดละ45 นาที และขึ้นอีก 10 นาที สิ่งแรกหลักจากดำลงไปและจะนำขึ้นมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจภายในวันนี้คือป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย ภาระกิจครั้งนี้นับไปอีก5วัน จะถ่ายรูปเรือและค้นหาผู้เสียชีวิต สำรวจว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร วันที่6 ถึงวันที่19 จพเป็นการทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เป็นอันตรายและนำทุกอย่างที่สามารถนำขึ้นมาได้ขึ้นมาสิ่งของต่างๆที่มีคุณค่าทางจิตใจเราจะนำไปทำอนุสรสถานต่างๆและจะจบภารกิจนี้ภายใน19วัน ภาระกิจครั้งนี้ทางกองทัพเรือมีงบประมาณ 200 ล้าน โดยเป็นงบของกองทัพเรือ 110 ล้าน เป็นงบของรัฐบาล 90 ล้าน โดย 90 ล้านนี้ทางกองทัพเรือจะคืนให้กับรัฐบาลเพื่อให้ไปใช้ประโยลน์อย่างอื่นต่อไป จากการลงสำรวจหากพบโครงกระดูกมนุษย์ก็จะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจพิสูจย์เปรียบเทียบ DNA และจะดำเนินการให้สมเกียรติ์ เหมือนดังที่ผ่านมา ในส่วนของเรือหลวงสุโขทัยยังคงตั้งเหมือนเดิม เอียง 7 องศาเหมือนเดิม ในการปฏิบัติภาระกิจครั้งนี้ ได้ขอให้สเด็จเตี่ยช่วยให้การปฏิบัติลุล่วงไปด้วยดี วันนี้วันแรกของการปฏิบัติภาระกิจ ใต้ทะเลน้ำใสมากทำให้การปฏิบัติภาระกิจไม่มีอุปสรรค์ใดๆ

พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงานข่าว