อยุธยา – ‘วราวุธ ศิลปอาชา’ รมว.พม เป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วัดวรนายกรังสรรค์เจติยบรรพตาราม จ.พระนครศรีอยุธยา

อยุธยา – ‘วราวุธ ศิลปอาชา’ รมว.พม เป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วัดวรนายกรังสรรค์เจติยบรรพตาราม จ.พระนครศรีอยุธยา

วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2566) เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดวรนายกรังสรรค์เจติยบรรพตาราม พระอารามหลวง ตำบลบางปะหัน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายอนุกูล ปิดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธนสุนทร สว่างสาลี รองปลัดกระทรวง ผู้บริหารระดับสูง หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จากทั่วประเทศ โดยมี นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอบางปะหัน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ และมี พระพิพัฒน์กิจจาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบางปะหัน เจ้าอาวาสวัดวรนายกรังสรรค์เจติยบรรพตาราม พระอารามหลวง เป็นองค์ประธานนำพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ทั้งนี้ ได้มีผู้มีจิตกุศลร่วมถวายจตุปัจจัย บำรุงและบูรณะพระอาราม ทำบุญกฐินพระราชทาน ประจำปี 2566 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,298,905 บาท

วัดวรนายกรังสรรค์เจติยบรรพตาราม เดิมชื่อว่า วัดเขาดิน โดยเหตุที่บริเวณนี้เป็นที่เนินดินสูงผิดกว่าที่อื่น ตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำที่ไหลแยกออกจากแม่น้ำลพบุรี สร้างในสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระพรหมมุนี พระอาจารย์ของสมเด็จพระนารายณ์ได้เคยอยู่ที่วัดนี้ เป็นวัดที่มีความสำคัญและเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาเป็นวัดร้าง จนในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้มาปฏิสังขรณ์ครั้งหนึ่ง ต่อมาเจ้าพระยาภูธราภัย (นุช บุณยรัตพันธุ์) ที่สมุหนายกในสมัยรัชกาลที่ 4–5 ได้มาปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และเมื่อ พ.ศ. 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเจดีย์ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อ เป็น “วัดวรนายกรังสรรค์เจติยบรรพตาราม” และยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เสนาสนะและปูชนียวัตถุต่าง ๆ เช่น พระอุโบสถไม่มีช่อฟ้า เชื่อกันว่าฐานพระอุโบสถนี้เป็นซุงไม้สักจำนวนมากมีกำแพงแก้วสองชั้น พระเจดีย์สูง 20 วา ฐานโดยรอบ 20 วา ทรงลอมฟาง มีกำแพงล้อมพระเจดีย์ หอระฆังอยู่บนฐานปูนสี่เหลี่ยม

เดชา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *