กรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำกลางนครปฐม จับมือมหาวิทยาลัยเทศโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
และผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบอาหารร่วมสนับสนุนการฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง
เรือนจำกลางนครปฐม โดย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธาน และร่วมลงนามในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการคืนคนดีสู่สังคม โดยการฝึกวิชาชีพ การประกอบอาหารให้แก่ผู้ต้องขัง ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ และผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบอาหาร โดยมี รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ นายสุทธิพงษ์ สุริยะ (อ.ขาบ) Food stylist รางวัลออสการ์อาหารโลก และนายแบรด ชื่นสมทรง Master Chef Thailand ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว พร้อมด้วยนายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม และนางสาวริศรา ศิริสุทธิเดชา เลขานุการกรม รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย ร่วมเป็นพยานในบันทึกข้อตกลง ณ แดนหญิง เรือนจำกลางนครปฐม
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเรียนรู้ สนับสนุนการพัฒนาพฤตินิสัยให้กับผู้ต้องขัง เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อให้สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวภายหลังพ้นโทษ ป้องกันการกระทำผิดซ้ำ โดยกรมราชทัณฑ์ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริม และสนับสนุนเครื่องมือการจัดการความรู้ พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการประกอบอาหารต่างๆ โดยวิทยากรที่มีชื่อเสียง และความเชี่ยวชาญเข้ามาให้ความรู้ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ต้องขังกลับสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน อีกทั้งการดำเนินการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายรวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกระดับสร้างความเปลี่ยนแปลงในมิติที่เกี่ยวกับการพัฒนาพฤตินิสัย โดยเฉพาะการพัฒนา และต่อยอดการฝึกวิชาชีพที่สอดคล้องกับตลอดแรงงาน โดยอาศัยศักยภาพของทรัพยากรที่มีได้อย่างเหมาะสม โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก”
นายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม ได้เปิดเผยว่า “เรือนจำกลางนครปฐม มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเรียนรู้ สนับสนุนการพัฒนาพฤตินิสัยให้กับผู้ต้องขัง และการสร้างงานสร้างอาชีพ ให้กับผู้ต้องขังเพื่อให้สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวภายหลังพ้นโทษ ป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งการพัฒนาพฤตินัยของผู้ต้องขังนั้นต้องการให้เกิดการพัฒนาเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เขาเหล่านั้นได้กลับคืนสู่สังคมโดยการทำคู่ขนานไปกับ การสร้างอาชีพหลังพ้นโทษโดยใช้โปรแกรมในการบำบัดทางร่างกายและจิตใจรวมถึงนิสัยซึ่งการวางรากฐานอาชีพนั้น ก็จะเป็นความยั่งยืนในการสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งมีทั้งการฝึกอาชีพช่างไม้ ช่างทอผ้า หัตถกรรม อาหาร ซึ่งต่อไปเขาจะนำไปใช้ในการสร้างอาชีพเลี้ยงครอบครัวและมีชีวิตอย่างปกติสุข และทางเรือนจำกลางนครปฐม ยังได้สร้าง Kitchen Studio ซึ่งออกแบบโดย อ.ขาบ ซึ่งเป็นครัวในคุกแห่งแรกในประเทศไทย ที่ใช้เป็นที่สอนการประกอบอาหารคาวหวานอีกด้วย”