ผบ.เรือนจำศรีสะเกษ เปิดอบรม ”สัปเหร่อหญิง“ แห่งแรกของเรือนจำในประเทศไทย

ผบ.เรือนจำศรีสะเกษ เปิดอบรม ”สัปเหร่อหญิง“ แห่งแรกของเรือนจำในประเทศไทย
วันที่ 8 ตุลาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมศาสพิธีกร หลักสูตร “สัปเหร่อ” ประจำปีงบประมาณ 2568 รุ่นที่ 2 สู่การเป็นสัปเหร่อมืออาชีพ โดยมี ดร.กัลยาณีธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ที่ปรึกษาเรือนจำศรีสะเกษ ร้อยตรี ณทียศ อาจภักดี นักทัณฑวิทยา ชำนาญการพิเศษ ผอ.ส่วนพัฒนาผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นายณัฐพงศ์ ศิริธรรมานันท์ อนุศาสนาจารย์ ผู้ประสานงานเรือนจำ นายไพฑูรย์ ทองพันชั่ง หัวหน้าฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจ นายธงชัย โคตรสุข ผอ.ส่วนข้าราชการราชทัณฑ์ พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่าย และ คณะวิทยากรจากชมรมสัปเหร่อจังหวัดศรีสะเกษร่วมในพิธีเปิด
นายอรรถสิทธิ์ ทองแสงผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า
กรมราชทัณฑ์ มีนโยบายให้เรือนจำหรือทัณฑสถานดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เพื่อแก้ไขพัฒนาพฤติกรรมผู้ต้องขังให้เป็นคนดีมีอาชีพติดตัว คืนสู่สังคม โครงการฝึกอบรมหลักสูตรสัปเหร่อครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ต้องขังมีความรู้ทางด้านหลักสูตรสัปเหร่อ อันจะสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปประกอบอาชีพได้ภายหลังพ้นโทษ และสามารถช่วยเหลือกิจการทางพุทธศาสนาและเกิดผลดีต่อสังคมส่วนรวม ซึ่งฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจ ได้ดำเนินการฝึกอบรมรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 7- 11 ตุลาคม 2567เป็นเวลา 5 วัน มีผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้ต้องขังหญิงจำนวน 25 คน ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากชมรมสัปเหร่อจังหวัดศรีสะเกษและงบประมาณสนับสนุนจากฝ่ายสวัสดิการร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ในการดำเนินการตามโครงการในการอบรม “สัปเหร่อ” ตามพจนานุกรมฉบับมติชน ให้ความหมายว่า เป็นคำนามหมายถึง ผู้ที่มีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับศพ เช่น เผาหรือฝัง เป็นต้น ให้ผู้เข้าอบรมมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพิธีศพ เช่น คาถา คำกล่าว การจัดการเกี่ยวกับศพ การหันหัวศพ การขอขมาศพ การอาบน้ำศพ การรดน้ำ การเปลี่ยนเสื้อผ้าศพ การแต่งศพ หวีผมทาแป้ง การมัดตราสัง การตั้งศพเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล การเก็บอัฐิ การบรรจุอัฐิ การลอยอังคาร เป็นต้น ให้ถูกต้องตามวัฒนธรรมประเพณีตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ ขอให้ผู้เข้าอบรมมีความตั้งใจเรียนรู้หลักสูตรนี้ให้ถ่องแท้ เพื่อที่จะสามารถนำไปประกอบเป็นวิชาชีพภายหลังพ้นโทษได้เป็นอย่างดียิ่งต่อไป