อ.อุ้มผาง ผู้ใหญ่บ้านเปิ่งเคลิ่งสุดทน เดินทาง เข้าแจ้งความ สภ.อุ้มผาง เอาผิด สื่อลงข่าว ทำให้ตนเสียหาย กรณีเรื่องผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่คนไทยที่ดังในโลกโซเชียล
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
เพื่อติดตามข้อเท็จจริง
ที่ดังในโลกโซเชียลและสื่อและเพจต่างๆ “ผู้ใหญ่บ้านปิ่งเคลิ่งไม่ใช่คนไทย”
จากกรณีที่มีชาย ซึ่งเป็นชาวบ้านอยู่ในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จ.ตาก ได้มีการไลท์สดโพสต์ ในลักษณะ เกี่ยวกับ การที่ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเปิ่งเคลิ่งซึ่งเป็นชาวพม่า แต่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และมีการ ให้สถานะชาวพม่า ได้รับบัตรประชาชนเป็นคนไทย จน สื่อโซเชียลและสื่อหลักบางสำนัก ได้เผยแพร่ข่าว จนเป็นที่โจษจันต่อสาธารณชน ที่ผ่านมา
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ว่าการอำเภออุ้มผาง พบกับนางนางวันเพ็ญ คงสีสวยวนา
อายุ 55 ปีอยู่บ้านเลขที่
48 หมู่ที่ 9 ตำบลแม่จันอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
ซึ่งเป็นมารดาของนาย.ค.บุคคลที่ เป็นเจ้าของ เพจ โดยให้ข้อมูลว่าตอนนี้นาย.ค ซึ่งเป็นลูกชายไม่ได้อยู่บ้านไปทำงานกรุงเทพ ฯ ยอมรับว่าลูกชายตัวเองมีอาการไม่ปกติทางจิต เหมือนคนที่อยู่ในโลกของจินตนาการ สมัยที่อยู่บ้าน ที่ผ่านมาเคย จู่ๆก็เอามีดมาฟันต้นทุเรียนตายจนหมด โดยบอกว่าต้นทุเรียนเหล่านี้มียาพิษ จะทำลายล้างโลก และยังก่อเหตุที่สร้างความไม่สบายใจให้กับครอบครัวบ่อยครั้ง เมื่อหลายปีก่อนก็คิดว่า ตัวเขาเอง ถูกองค์กรก่อการร้ายระดับโลก นำอุปกรณ์มาใส่ไว้ในสมองของเขา เพื่อที่จะบังคับให้เขาทำในสิ่งที่ ต้องการ โดยกล่าวหาว่ามีีงข้าราชการไ และตำรวจ ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่มีส่วนรู้เห็นกับองค์กรผู้ก่อการร้าย ซึ่งเรื่องราวดังกล่าว เคยมีสื่อนำไปเผยแพร่แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ในส่วนนี้ก็ต้องขอ โทษ ไปยัง ผู้หลักผู้ใหญ่ ข้าราชการหรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องที่ถูกลูกชายของตัวเองพูดถึงกล่าวหาพาดพิงให้ได้รับความเสียหาย ตนเองก็อยากจะบอกให้ลูกชายกลับมาอยู่บ้านแล้วเลิกเล่น Facebook กลับมา เป็นลูกชายที่ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินอยู่ที่บ้านไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ยังพื้นที่ อำเภออุ้มผางจังหวัดตากเพื่อ ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง ของเรื่องราวดังกล่าวโดย พบกับนายรัตนกุล สังขะศิลา ปลัดอำเภออุ้มผาง โดย. นายมาโนช โพธิ์เนียม นายอำเภออุ้มผางได้มอบหมายให้ นายรัตนกุล สังขะศิลาปลัดอำเภอ สอบข้อเท็จริง สอบผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูลและข้อเท็จจริง เสนอผู้บังคับบัญชาไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน นายอภิชาติ สุดเฉลามาลัย ผู้ใหญ่บ้านเปิ่งเคลิ่ง
บอกกับผู้สื่ิอข่าวว่า ก็รู้จักกับ พ่อแม่ของนายสมคิด ที่ผ่านมาก็ ถูกกล่าวหาพาดพิงบ่อยครั้งแต่ไม่คิดจะเอาเรื่องอะไรเพราะ เกรงใจพ่อแม่ของนายสมคิด และก็เห็นใจที่ลูกชายของเขา มีสภาพจิตที่ไม่ปกติ แต่เมื่อโดนกล่าวหาต่อเนื่องมาตลอดหลายปีจนกระทั่งล่าสุด ที่กล่าวหาตนเองอย่างรุนแรงจนกระทั่งสื่อต่างๆนำไปขยายความ ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียงเกียรติยศเพราะตนเอง รวมถึงชาวบ้านทุกคนในพื้นที่ ถึงแม้จะเป็นชาติพันธ์กะเหรี่ยง แต่ก็เป็นคนไทยที่อยู่ในแผ่นดินสยามสืบเผ่าพันธุ์มาตั้งแต่ ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา หรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นหมู่บ้านที่ปิดตัวอยู่ในผืนป่าชายแดนไทยเมียนมาร์ แม้แต่ประวัติตำรวจพลร่มของไทย ยังเคยกระโดดร่ม ลงมาปฎิบัติการตั้งฐานประจำอยู่ที่หมู่บ้านเปิ่งเคลิ่ง เป็นภาระกิจแรกของหน่วยตำรวจพลร่มในยุคก่อตั้ง และในการ ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ใหญ่บ้านของตนก็ตั้งหน้าตั้งตา มุ่งมั่นที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวบ้านจนได้รับ รางวัลจากกระทรวงมหาดไทย
ในวันนี้ตัวเองมาขอเอกสารเพิ่มเติม จากที่ว่าการอำเภออุ้มผาง และ
ในครั้งนี้จะขอสงวนสิทธิ์ จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้นำคลิปวีดีโอข้อมูลอันเป็นเท็จไปเผยแพร่ทำให้ตนเองเสียหาย ในสื่อโซเชียลสื่อกลางและทีวีบางช่อง ที่ให้ข้อมูลผิดๆไม่ตรงกับความเป็นจริงจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามตัวบทกฎหมายต่อไป
เมื่อเร็วๆนี้ นายอภิชาติ สุดเฉลามาลัย ผู้ใหญ่บ้านเปิ่งเคลิ่ง เข้ารับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ได้แก่ บ้านเปิ่งเคลิ่ง หมู่ที่ 9 ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ในงานวันพัฒนาชุมชน ประจำปี 2567 (Community Development DAY ) กรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้ธีมงาน “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” Strengthened grassroots economy , resilient and Sustainable communities)
ระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
ชวลิต วิกุลชัยกิจ/รายงาน