ข่าว.สระแก้ว เตรียมเปิดด่าน เสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อบ้านไทย-กัมพูชา ระหว่างจังหวัดสระแก้วราชอาณาจักรไทย กับ จังหวัดบันเตียย์เมียนเจ็ย ราชอาณาจักรกัมพูชา
ๅ
(19 ส.ค.) ที่ ห้องประชุมเพชรบูรพา สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้วเขต 2 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐและเอกชน ร่วมประชุมเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้านไทย-กัมพูชา ระหว่างจังหวัดสระแก้วราชอาณาจักรไทย กับ จังหวัดบันเตียเมียนเจ็ย ราชอาณาจักรกัมพูชา โดย นายนงอ เมงจรวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียนเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อม ส่วนราชการราชอาณาจักรกัมพูชาที่ เกี่ยวข้องร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยในที่ประชุมเป็นการหารือในเรื่องของการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2553 (MOU43) การสัญจรข้ามแดนโดยใช้หนังสือเดินทาง บัตรผ่านแดนชั่วคราว แรงงานภาคการเกษตรที่จะเข้ามา และแรงงานที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือและเรื่องการเตรียมการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (หนองเอี่ยน-สตึงบท)
โดยปัจจุบันจุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท) มีสถานะเป็นจุดผ่านแดนชั่วคราว มี CIQ ปฏิบัติหน้าที่ ใช้เป็นจุดผ่านแดนเฉพาะสินค้า ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. ซึ่งคณะรัฐมนตรีของไทย มีมติเห็นชอบให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำประกาศกระทรวงมหาดไทย เพื่อเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร ตั้งแต่วันออกประกาศเป็นตันไปและเมื่อเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรแล้ว ฝ่ายไทยจะขยายเวลาการเปิด-ปิด จากเดิม เวลา 06.00 – 18.00 น. เป็น 06.00 – 22.00 น. และสามารถข้ามแดนได้ ทั้งคน และสินค้า ซึ่งจังหวัดสระแก้ว จึงได้นำประเด็นเรื่อง การเตรียมการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา(หนองเอี๋ยน-สตึงบท) เข้าหารือร่วมกันในวันนี้ เพื่อให้การสัญจรผ่านแดนทั้ง 2 ฝ่าย เป็นไปอย่างสอดคล้องกันและจะได้ดำเนินการให้สอดคล้องและเหมาะสมเพื่อประโยชน์กับประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (หนองเอี๋ยน – สดึงบท) จะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เสริมสร้างความสะดวกสบายในการขนส่งสินค้าระหว่างสองประเทศช่วยกระตุ้นการค้าชายแดนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค เพิ่มความปลอดภัยและรวดเร็วในการเดินทาง เป็นการแสดงถึงความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ และเป็นการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน สร้างโอกาสในการจ้างงานและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนของทั้งสองประเทศต่อไป
รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว
