จ.ชุมพร-ป้าเลวสุดๆสารภาพพาหลานสาววัย 11 ขวบให้เพื่อนชายทำอนาจารในรถกระบะ

จ.ชุมพร-ป้าเลวสุดๆสารภาพพาหลานสาววัย 11 ขวบให้เพื่อนชายทำอนาจารในรถกระบะ
จากกรณีพ่อเด็กอายุ 11 ขวบพาพวกรุมทำร้ายเลือดอาบชายวัย 48 ปี โดยการจับมัดมือไขว้หลังและมัดข้อเท้าติดกันและทุบกระจกรถแตกได้รับความเสียหาย เหตุเพราะผู้เป็นพ่อเด็กซ้ำใจที่นายเรวัตชายวัย 48 ปี ได้ทำอนาจารลูกสาววัย 11 ปี ภายในรถยนต์กระบะเมื่อวันที่ 16 ม.ค.67 จนเหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การแจ้งความข้อกล่าวหาซึ่งกันและกันระหว่างผู้บาดเจ็บที่ถูกกล่าวหาอนาจารเด็กหญิงวัย 11 ปี และผู้เป็นพ่อเด็กถูกแจ้งและพวกถูกแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ทำให้คดีดังกล่าวเป็นข่าวดังในเดือนมกราคมที่ผ่านมาและเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจ
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 6 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นำโดย พ.ต.อ.สุริยนต์ ชมมี ผกก.ปากน้ำหลังสวน นำตัวน.ส.จิราวรรณ์ แก้วมณี ป้าของเด็กออกจากข้องคุมขังที่สภ.ปากน้ำหลังสวน เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
โดยในตอนแรกผู้สื่อข่าวถามน.ส.จิราวรรณ์ฯว่าได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ น.ส.จิราวรรณ์ บอกว่ามีบางช่วงก็จริงบางช่วงก็ไม่จริง ส่วนที่ไม่จริงคือไม่ตนไม่เคยทำไม่เคยพูดเรื่องที่ให้อนาจารในรถอันนี้ไม่เคยพูด และไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวน.ส.จิราวรรณ์ออกจากห้องหลังจากพ.ต.อ.สุริยนต์ ชมมี สอบสวน น.ส.จิราววรรณ์ ผู้เป็นป้า รับว่าพาหลานสาวออกไปหานายเรวัต เพื่อนสนิทที่รู้จักกันในแอพหาคู่จริง และรู้ว่านายเรวัตทำอนาจารหลานสาว
พ.ต.อ.สุริยนต์ ชมมี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน กล่าวว่า กรณีคดีอนาจารเด็ก คดีร่วมกันทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีนายณัฐวุฒิ แก้วมณี มาแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน ว่าบุตรสาวถูกกระทำอนาจาร เหตุเกิดในวันที่ 16 ม.ค. 67 ขณะนั้นทางผู้เสียหายยังไม่ทราบตัวคนร้ายว่าเป็นใคร มีแค่รูปถ่ายจากโทรศัพท์ของป้ากับคลิปเสียงที่อัดไว้ของผู้ต้องหากับผู้เสียหาย ในขณะแจ้งความอยู่นั้น คนร้ายได้ส่งรูปโทรศัพท์ที่ซื้อให้เด็กส่งมาในแชทไลน์ของป้า
เมื่อทราบข้อมูลดังนั้นพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยอาของผู้เสียหายไปสืบเพื่อทราบตัวคนร้ายที่ร้านขายโทรศัพท์โดยทันทีในพื้นอำเภอทุ่งตะโก เพื่อให้ทราบว่าตัวคนร้ายคือใคร ระหว่างตรวจสอบอยู่นั้น(วันที่ 21 ม.ค.67 เวลา 16.00 น.) บิดาเด็กผู้เสียหายโทรมาแจ้งกับอาว่าพบตัวคนร้ายแล้ว พนักงานสอบสวนกับอาได้รีบเดินทางไปที่พบตัวคนร้าย ขณะเดินทางมาถึงปากน้ำหลังสวน ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในพื้นที่ชายทะเล บ้านกลางอ่าว ม.13 ต.บางมะพร้าว จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที
พบร้อยเวร 20 สายตรวจรถยนต์ ชุดสืบสวน อยู่ในที่เกิดเหตุก่อนแล้ว แจ้งให้ทราบว่ามูลนิธิกู้ภัยได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลปากน้ำหลังสวน จึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที จึงได้ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ ซึ่งผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถให้การได้ หลังจากรักษาตัวดีแล้ว ผู้บาดเจ็บได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งความว่าโดนทำร้ายร่างกาย จากการสอบสวนได้ทราบว่าสาเหตุที่ถูกทำร้ายร่างกายเนื่องจาก นายเรวัต หนองหาร ได้กระทำอนาจารบุตรสาวของนายณัฐวุฒิ แก้วมณี ซึ่งเป็นบิดาของเด็กผู้เสียหาย
การดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดกฎหมาย ต้องแยกคดีตามความผิดตามกฎหมายดังนี้ 1.นายเรวัต หนองหาร ผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจาร ด.ญ.สุภาวดีฯ ข้อหา กระอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำโดยใช้วัถตุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของเด็กนั้น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และโดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร(คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาชั้นพนักงานอัยการ)
ส่วนนายณัฐวุฒิ แก้วมณี บิดาผู้เสียหาย ผู้ต้องหาคดี พร้อมพวก รวม 3 คน ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์(คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาชั้นพนักงานอัยการ)
ทั้งนี้พ.ต.อ.สุริยนต์ ฯผกก.ปากน้ำหลังสวน กล่าวอีกว่า น.ส.จิราวรรณ์ แก้วมณี ป้าผู้เสียหาย จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเป็นผู้นำพาหลาน(ผู้เสียหาย)ไปให้นายเรวัตฯกระทำอนาจาร จึงขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน และศาลอนุมัติหมายจับ ที่ 36/2567 ลงวันที่ 6 ก.พ. 67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 1.เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยใช้อุบาย หลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายฯโดยกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยปราศจากเหตุอันสมควร 2.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร 3.สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี
…………………………………………………….

/////เอกชนะ นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร098-9515199

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *