ศรีสะเกษ #ผู้ว่าฯอยู่ใหนงามหน้าแก๊งปาเป้าบิงโกอิทธิพลยกพวกกระทืบนักข่าวในงานเทศกาลหอมแดงหน้าที่ว่าการ อ.ยางชุมน้อย กร่างสุดขีดยกพวกนับสิบตามไปที่ สภ.ยางชุมน้อยข่มขู่จะกระทืบนักข่าวต่อหน้าสารวัตรสอบสวนและ ตร.นับสิบนาย ประกาศลั่นงานนี้เคลียร์งานทุกระดับแล้ว
เมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 19 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง น.ร. และประชาชนชาว อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษว่า ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีการจัดงาน “งานเทศกาลหอมแดง กระเทียมดี ที่ยางชุมน้อย” ครั้งที่ 46 ประจำปี 2567 จัดงานนี้ขึ้น ในระหว่างวันที่ 18 – 22 มกราคม 2567 ซึ่ง นายสฤษดิ์ รัตนวงษ์ นายอำเภอยางชุมน้อยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง และส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วนได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น ได้มีการเปิดเล่นพนันต่าง ๆ เช่น ปาเป้า บิงโก ปาโป่ง โยนห่วง และวงล้อมหัศจรรย์ โดยมีรางวัลเป็นตุ๊กตาขนาดต่าง ๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมาก มีการนำเอาตุ๊กตามาแขวนหน้าร้านเพื่อเชิญชวนหลอกล่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชนคนหนุ่มสาวพากันเข้ามาเล่นพนันเพื่อเอาตุ๊กตากันอย่างคึกคักมาก โดยมีการเปิดร้านเป็นแถวเรียงรายประมาณ 40 ร้าน หันหน้าเข้าหากันกินพื้นที่เกินกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่การจัดงานเทศกาลหอมแดงในครั้งนี้
ซึ่งการเปิดเล่นพนันดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นการพนันประเภท (ข) มีเด็กเยาวชนพากันร้องอ้อนวอนพ่อแม่เพื่อขอเงินมาเล่นพนันกันอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้เด็กและเยาวชนอาจจะไม่รู้ว่าการเล่นพนันดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ประชาชนที่ร้องเรียนหวั่นเกรงว่า อาจจะเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชน ซึ่งสถานที่เปิดร้านเล่นพนันนี้อยู่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.ยางชุมน้อย ซึ่งเป็นสถานที่ราชการและอยู่ห่างจาก สภ.ยางชุมน้อย เพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น แต่ว่าร้านพนันเหล่านี้สามารถเปิดเล่นพนันได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีการประกาศว่างานนี้ได้เคลียร์ทุกระดับแล้ว เล่นพนันได้อย่างสบายมาก ทำให้ไม่มีส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 ได้บัญญัติว่า “ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน หรือรับอนุญาตแล้ว แต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น อันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงนั้น” ลักษณะยิงเป้า ปาลูกโป่ง เป็นการพนันประเภท (ข) มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จนถึง 3 ปี ปรับตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป จนถึง 5,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะเดียวกันในบริเวณการจัดงานครั้งนี้ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ ยังได้มีการเปิดร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ เช่น จำหน่ายเหล้า เบียร์กันอย่างคึกคักมาก มีประชาชนมานั่งดื่มเบียร์เหล้าในบริเวณนี้ที่เป็นสถานที่ราชการกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ได้กำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับการห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการไว้อย่างชัดเจน แต่ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปกวดขันดูแลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ นาย ก. ผู้สื่อข่าวกำลังถ่ายทำข่าวการจำหน่ายเหล้าเบียร์อยู่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.ยางชุมน้อยนั้น ได้มีกลุ่มผู้ชาย จำนวนประมาณ 3 – 4 คนและผู้หญิง 1 คน ซึ่งถือโทรศัพท์บันทึกภาพของผู้สื่อข่าวตลอดเวลาที่ทำข่าวนี้ ได้พากันเข้ามารุมทำร้ายผู้สื่อข่าวทางด้านหลัง โดยชกผู้สื่อข่าวเข้าที่บริเวณปากด้านขวา ทำให้ผู้สื่อข่าวล้มลง โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการถ่ายทำข่าวกระเด็นตกลงไปที่พื้นดิน จากนั้น กลุ่มผู้ชายและหญิงได้เข้ามารุมทำร้ายชกต่อย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้แต่ทำการปัดป้องกันตนเองและตะโกนถามว่า ชกผมทำไม จากนั้น ได้รีบไปเก็บเอาโทรศัพท์มือถือมาทำการบันทึกภาพชายและหญิงที่รุมทำร้ายตนไว้ได้ โดยขณะเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ทหาร สห.อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรเท่านั้น และไม่ได้เข้ามาทำการห้ามปรามการเกิดเหตุครั้งนี้แต่อย่างใด ปล่อยให้กลุ่มชายหญิง ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าปาเป้า ปาโป่ง ที่มีความไม่พอใจที่ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำข่าวพนันปาเป้าปาโป่ง จึงได้พากันมารุมทำร้ายผู้สื่อข่าวในครั้งนี้
ต่อมา นาย ก.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ยางชุมน้อย เพื่อทำการแจ้งความกับ พ.ต.ท.ปัญญา โพธิขำ สว.สอบสวน หัวหน้างานคดี เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มชายหญิงที่พากันมาทำร้ายตนเอง ซึ่งปรากฏว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังทำการแจ้งความอยู่ภายในห้องพนักงานสอบสวนอยู่นั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนซึ่งคาดว่า เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่รุมทำร้ายนักข่าวได้พากันติดตามเข้ามาในห้องพนักงานสอบสวน สภ.ยางชุมน้อย และแสดงอาการข่มขู่ชี้หน้าจะเข้ามาทำร้ายผู้สื่อข่าวต่อหน้า พ.ต.ท.ปัญญา โพธิขำ สว.สอบสวน และ ตร.สภ.ยางชุมน้อยหลายนาย ซึ่ง พ.ต.ท.ปัญญา โพธิขำ ได้ใช้ตนเองกันเอาตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ออกไปจากห้องพนักงานสอบสวน จากนั้น แจ้งให้ผู้สื่อข่าวไปพบแพทย์ที่ รพ.ยางชุมน้อย เพื่อตรวจร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้าย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พิษณุ วัตถุ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แล้ว จึงได้โทรศัพท์สั่งการด่วนให้ พ.ต.อ.พศวีร์ นักฟ้อน ผกก.สภ.ยางชุมน้อย ได้เข้าดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากว่า เป็นการทำร้ายร่างกายสื่อมวลชน เป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ทำให้สื่อมวลชนได้รับผลกระทบจากการเผชิญความรุนแรงในครั้งนี้ โดยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายตามพยานหลักฐานอย่างเต็มที่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมาได้มี นาง ญ. อ้างว่า เป็นผู้จัดงานปาเป้า ปาโป่ง บิงโก งานครั้งนี้ ได้เข้ามาพบนาย ก.ผู้สื่อข่าวที่ สภ.ยางชุมน้อยต่อหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อเจรจาขอให้ผู้สื่อข่าวถอนแจ้งความ อ้างว่าจะทำให้กระทบต่อการเล่นพนันปาเป้า ปาโป่ง บิงโก จะทำให้เสียรายได้ เพราะว่าจ่ายเงินเคลียร์ทุกฝ่ายไปเยอะมาก แต่ว่าผู้สื่อข่าวปฏิเสธการเจรจา และยืนยันขอให้พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป/////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
