นครพนม-แม่แรงงานไทยสุดปลื้ม หลังรับข่าวดีลูกชายถูกฮามาสปล่อยตัว รวมญาติล้อมวงกินข้าว เป็นมื้อที่อร่อยสุดในรอบ 2 เดือน

นครพนม-แม่แรงงานไทยสุดปลื้ม หลังรับข่าวดีลูกชายถูกฮามาสปล่อยตัว รวมญาติล้อมวงกินข้าว เป็นมื้อที่อร่อยสุดในรอบ 2 เดือน
*****
สืบเนื่อง วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา กองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮามาส ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ฝั่งปาเลสไตน์ ติดชายแดนตอนใต้ของอิสราเอล บุกภาคพื้นดินกราดยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งกวาดต้อนไปเป็นตัวประกัน จำนวนหลายร้อยคน โดยมีแรงงานไทยรวมอยู่ในนั้นด้วย หลังจากนั้นกองทัพอิสราเอลก็โจมตีปาเลสไตน์ ทั้งทางบกและอากาศ กระทั่งมีการเปิดเจรจาและมีการหยุดยิง ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน เป็นต้นมา ทั้งนี้กลุ่มฮามาสยอมรับเงื่อนไข ในการปล่อยตัวประกัน อย่างน้อย 10 ต่อวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งการปล่อยตัวประกันก็มีแรงงานไทยรวมอยู่ด้วย โดยฮามาสทยอยปล่อยออกมาแล้ว 4 ชุด
ล่าสุด วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชุดที่ 5 ให้กับเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการกาชาดสากล (ICRC) จำนวน 12 คน และมี 2 คนที่เป็นแรงงานไทย ทราบต่อมาว่าชื่อ 1.นายพัฒนายุทธ ต้อนโสกรี ภูมิลำเนา จ.นครพนม 2.นายโอวาส สุริยะศรี ภูมิลำเนา จ.ศีรสะเกษ โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางไปรับ 2 แรงงานไทยที่ชายแดนราฟาห์ติดกับอียิปต์ด้วยตนเอง ก่อนจะพาตัวทั้งสองคนไปยังโรงพยาบาล Shamir Medical Center เพื่อตรวจสุขภาพตามขั้นตอน และยังได้พบกับคนงานไทยอีก 17 คนที่ได้รับการปล่อยตัวก่อนหน้านี้ ต่างสวมกอดกัน และส่งเสียงปรบมือด้วยความดีใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 95 หมู่ 1 บ้านนาซอ ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้พบกับนางสา ต้อนโสกรี อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่พร้อมญาติๆ ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นอย่างมาก โดยเปิดเผยว่าทราบข่าวตอนเวลาประมาณ 5 ทุ่มของคืนวันที่ 28 พ.ย. ว่า ลูกชายคือนายพัฒนายุทธ มีชื่อเล่นว่าท่า ได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว จึงกระโดดดีใจจนตัวลอย ก่อนจะวิ่งไปบอกญาติพี่น้องที่ปลูกบ้านติดกัน
นางสายอมรับว่าก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ลูกชายถูกจับตัวไปเป็นตัวประกัน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา กินข้าวก็ไม่อร่อย นอนไม่ค่อยหลับ แม้แต่จะเดินไปกลางหมู่บ้านยังไม่กล้า เพราะไม่อยากให้ใครถามหาลูกชาย มันจะทำให้จุกอกและกลั้นไม่น้ำตาไม่อยู่ จึงต้องตัดขาดจากสังคมภายนอกชั่วคราว แต่เมื่อรู้ข่าวว่าลูกชายปลอดภัยแล้ว ตอนนี้เดินไปไหนก็ได้
ส่วนคำถามว่าไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนบ้าง ตนไปบอกกล่าวกับรูกปั้นท้าวเวสสุวรรณ ที่อยู่ภายในวัดป่าของหมู่บ้าน และ ศาลหลักบ้าน รวมทั้งบอกกับดวงวิญญาณของนายคูณ ต้อยโสกรี สามีที่เสียชีวิตไปแล้ว ช่วยคุ้มครองลูกชายให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหมด จากนั้นก็ไปจุดธูปกล่าวกล่าวกับรูปภาพของนายคูณ ที่วางไว้บนหลังตู้เสื้อผ้าในห้องนอน เมื่อลูกชายกลับคืนมาตุภูมิก็จะพาเดินสายแก้บนตามความเชื่อต่อไป
ด้าน นางปรารถนา โพติยะ อายุ 68 ปี มีศักดิ์เป็นป้าของนายพัฒนายุทธ เพราะเป็นพี่สาวของนายคูณสามีของนางสา เปิดเผยด้วยน้ำตาแห่งความปิติ ว่า ตนเลี้ยงนายพัฒนายุทธคู่กับลูกสาวมาตั้งแต่น้อย จึงมีความรักผูกพันเหมือนลูกคนหนึ่ง หลังทราบว่าหลานชายถูกจับตัวไปก็ร้องไห้ วิงวอนให้ทางการหาทางช่วยเหลือ พอทราบว่าหลานชายปลอดภัยก็จะไปแก้บน แต่สิ่งแรกที่จะทำเมื่อได้เจอหลาน นางปรารถนาจะเข้าไปกอดและหอม
หลังจากนั้นกลุ่มญาติๆ ได้นำข้าวปลาอาหารมานั่งกินร่วมกัน เนื่องจากที่นายพัฒนายุทธถูกจับตัวไปเป็นตัวประกัน เป็นเวลาร่วม 2 เดือน ญาติพี่น้องไม่มีโอกาสได้กินข้าวด้วยกันเลย วันนี้จึงถือเป็นมื้อแรกที่ได้ล้อมวงร่วมกัน และกับข้าวก็อร่อยถูกปากทุกอย่าง
โดยจากข้อมูลสำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม มีแรงงานที่ขาดการติดต่อ รวมทั้งถูกจับไปเป็นตัวประกันรวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายนัฐพร อ่อนแก้ว 2.นายเฉลิมชัย แสงแก้ว 3.นายพัฒนายุทธ ต้อนโสกรี 4.นายบุดดี แสงบุญ 5.นายอุทัย แสงนวล และมีแรงงานที่เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งศพทั้งสองถูกส่งกลับภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภายหลังกลุ่มฮามาสได้ทยอยปล่อยตัวประกันทั้งชาวอิสราเอลและต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. เป็นต้นมา ภาพรวมเฉพาะแรงงานไทย ณ วันที่ 29 พ.ย. ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพแล้ว 19 ราย ในส่วนของแรงงานที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.นครพนม ยังคงเหลือที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันเพียงคนเดียว คือ นายเฉลิมชัย แสงแก้ว เป็นชาว อ.ปลาปาก คาดจะได้รับอิสรภาพในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้ส่งมอบตัวประกัน ผ่านคณะกรรมการสภากาชาดสากล (ICRC) มาทางช่องทางประเทศอียิปต์ เข้ามาในดินแดนของอิสราเอล ในขณะที่อิสราเอลก็ได้ปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ เป็นการแลกเปลี่ยน ภายใต้ข้อตกลงพักการสู้รบชั่วคราว ซึ่งข้อตกลงหยุดยิงจะช่วยบรรเทาวิกฤตในฉนวนกาซา หลังอิสราเอลเดินหน้าทิ้งบอมบ์ต่อเนื่องนานกว่า 7 สัปดาห์ ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของปาเลสไตน์เหลือแต่ซากปรักหักพัง และการขยายกรอบเวลาหยุดยิงเพิ่มเติม เพื่อเปิดทางให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 10 คนต่อวัน
โดยประเทศไทยได้มี นายเลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทยในอิหร่าน และ อาจารย์มหาวิทยาลัยนานาชาติในอิหร่าน พร้อมคณะได้เจรจากับผู้แทนฮามาสประจำกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยฮามาสพูดมาตลอดว่าถ้าจะปล่อยตัวแรงงานที่จับกุมไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความปลอดภัยทางด้านชีวิต และสถานการณ์หยุดยิง เนื่องจากทางอิสราเอลยิงเข้าไปในทุกพื้นที่ทั้งโรงพยาบาล มัสยิด หากเร่งปล่อยตัวเกรงว่าจะส่งผลต่อชีวิตของตัวประกัน หรือตัวประกันอาจจะเสียชีวิต แต่เมื่อนานาประเทศกดดัน เพื่อให้มีการประกาศหยุดยิง แลกกับการปล่อยตัวประกันที่ถูกจับกุมตัวไป และมีการช่วยเหลือลำเลียงทางด้านสิทธิมนุษยชน โดยคณะเจรจาได้รับการยืนยันจากกลุ่มฮามาส ว่า ถ้ามีการปล่อยตัวจะคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทย และ แรงงานไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *