นครพนม-สภา ม.นครพนมล่ม กก.ไล่จี้เรื่องยื่นโปรดเกล้า หวั่นระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แทรกขอขึ้นเงินเดือนผู้บริหารเป็น 2 แสนบาท ผู้ทรงโผล่แว๊บเดียวหายวับ
*****
สืบเนื่อง วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ที่ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนครพนม สำนักงานอธิการบดี มีการประชุมคณะกรรมการสภาฯ ครั้งที่ 11/2566 โดยมี ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม เป็นประธาน พร้อมกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิเดิมมี 18 ราย แต่เข้าร่วมประชุมจำนวน 15 ราย ในจำนวนนั้นประชุมผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 3 คน และลาประชุม 3 คน จึงเหลืออยู่ในห้องประชุม 12 ราย ซึ่งผู้ประชุมออนไลน์ได้มานั่งเพียงแป๊บเดียวก็ออกจากกลุ่มไป
เริ่มวาระการประชุมก็ดุเดือดแล้ว โดยมีด้วยการทวงถามจริยธรรมของนายกสภาฯ ที่ไม่ยอมบรรจุวาระทบทวน การลงมติเลือกอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้มีคณะกรรมการสภาฯ ถือเป็นเสียงส่วนใหญ่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการเสนอโปรดเกล้า ตามจำนวนคณะกรรมการที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ แต่กลับมีกรรมการเสียงข้างน้อยพยายามทุกวิถีทางเสนอโปรดเกล้าฯ ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายกสภาฯจะต้องนำเข้าวาระฯ ตั้งแต่การประชุมครั้งที่ 10/2566 แล้ว และรอบนี้ก็ยังไม่ยอมบรรจุวาระอีก ถือเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงต่อการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท โดย ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภาฯ ขอเป็นการประชุมคราวหน้า
ต่อมาเป็นเรื่องการอนุมัติแผนงบประมาณที่ไม่มีความชัดเจน ด้านตัวเลขเงินสะสมและเงินรายได้ ทั้งมีการแสดงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ขาดความน่าเชื่อถือ แม้สภาฯจะอนุมัติเพื่อให้สามารถปฏิบัติราชการได้ แต่รอบหน้าต้องไปตรวจสอบตัวเลขเงินสะสมให้ถูกต้อง โดยเฉพาะประเด็น เงินของสำนักงานอธิการที่ติดลบร้อยกว่าล้าน แล้วไปหยิบเอาเงินสะสมของคณะหรือวิทยาลัยต่างๆ มาใช้ โดยไม่มีการบอกกล่าว เสมือนเป็นนายธนาคารที่ขโมยเงินลูกค้าไปใช้ แล้วบอกลูกค้าที่ฝากเงินว่า เงินคุณมีแต่ตัวเลขถอนไม่ได้
นอกจากนี้มีการขอขึ้นเงินเดือนผู้บริหาร เช่น อธิการบดี เป็นเดือนละ 200,000 บาท ส่วนรองอธิการบดีฯ เป็นเดือนละ 120,000 บาท ในที่ประชุมอนุมัติ โดยมีกรรมการเสียงข้างน้อยงดออกเสียง เพราะเห็นว่ามติกรรมการบริหารงานบุคคล (กบม.) เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากที่ประชุมมีกรรมการไม่ครบองค์ประกอบ
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีคณะกรรมการอยู่ 12 คน ออนไลน์ 3 คน แต่มาแค่แว๊บเดียวก็หายไป คล้ายมาให้เห็นหน้าเพื่อเบิกเบี้ยเลี้ยงครั้งละ 3,000 บาทเท่านั้น จึงมีกรรมการสภาฯท่านหนึ่ง ได้กล่าวกับฝ่ายเลขาว่า ต่อไปในการประชุมให้สอบถามกรรมการสภาฯให้ชัดเจน ว่าว่างร่วมประชุมหรือไม่เพราะถ้าสภาล่ม ทำให้วาระต่างๆไม่ได้รับการพิจารณาเป็นจำนวนมาก และเป็นที่น่าสังเกตว่า แม้แต่ตัวนายกสภาฯ เอง ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับองค์ประชุม ทั้งที่เหลือผู้อยู่ในห้องประชุมน้อย ก็ยังเดินออกไปที่ห้องอบรมอีกห้องหนึ่ง และไม่ยอมกลับมาร่วมประชุม จึงเป็นเหตุให้สภาล่ม เพราะทั้งนายกสภาฯ รวมถึงอุปนายกสภาฯ และกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมประชุมออนไลน์ออกนอกห้องประชุม ทั้งที่มีวาระค้างอยู่จำนวนมาก
สำหรับเงินเดือนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม มีฐานตั้งแต่ 150,000-250,000 บาท ที่ผ่านมามีทั้งรักษาการ และ อธิการบดี รับเดือนละ 150,000 บาท ถือเป็นฐานต่ำสุดของเลสเงินเดือน โดยเลือกตั้งอาจารย์ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยฯ มาเป็นผู้บริหาร สมมติมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 80,000 บาท เมื่อขยับขึ้นมาเป็นผู้บริหาร ทางมหาวิทยาลัยจะจ่ายเพิ่มเพียง 70,000 บาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันผู้บริหารมาจากคนนอก ทางมหาวิทยาลัยฯจึงต้องจ่ายเต็ม 100 % คือ 150,000 บาท แต่ก็ยังไม่พอใจจะขอขึ้นเป็น 200,000 บาท เช่นเดียวกับรองอธิการบดี เดิมมีเพียง 3 คน และไม่ต้องจ่ายเงินเดือนเพิ่มเพราะใช้คนใน จ่ายเพียงเงินประจำตำแหน่ง 20,000 และค่าตอบแทนรถยนต์ 20,000 บาท ทั้งนี้ที่ผ่านมาผู้บริหารรู้ดีว่า สำนักงานอธิการบดีไม่มีเงิน ปัจจุบันมีการเพิ่มรองอธิการบดีเป็น 5 คน และเป็นจ้างคนนอกค่าตัว 120,000 บาท/เดือน จึงมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารชุดนี้ ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหา หรือมาเพิ่มปัญหากันแน่
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)
