รัฐบาลเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ ยกระดับกฎหมายช่วยเหลือผู้เสียหาย
รัฐบาลเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยคณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 30 วัน ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดำเนินการระงับบัญชีม้าแล้วกว่าล้านบัญชี ปิดกั้นเว็บผิดกฎหมายกว่าแสนราย และบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาภัยออนไลน์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน
ผลการดำเนินงานโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาภัยออนไลน์ของรัฐบาล ดังนี้
1. การแก้กฎหมายเร่งด่วนเพื่อช่วยผู้เสียหายและป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เร่งดำเนินการยกร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ฉบับที่ 2 เพื่อตอบสนองนโยบายคณะรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และเพิ่มความรับผิดชอบผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และสถาบันการเงิน
2. การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์และมีคดี ที่สำคัญ รวมทั้งเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง ในช่วงระหว่างวันที่ 1 – 31 ส.ค. 67 ดังนี้ การจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์รวมทุกประเภท จำนวน 1,945 ราย , การจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 732 ราย , การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า จำนวน 240 คนต่อเดือน , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุมเว็บพนันออนไลน์ หวยแบงก์.com มีเงินหมุนเวียนมูลค่าประมาณ 11 ล้านต่อเดือน ยึดทรัพย์สินมูลค่า 16 ล้านบาท จับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 2 ราย , ปฏิบัติการบุกตรวจค้น “4 บริษัทเทรดหุ้นต่างประเทศ” หลอกลวงผู้เสียหายทั่วประเทศรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท จับกุมผู้เกี่ยวข้องแล้ว จำนวน 4 ราย , กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการจับกุมคดีที่สำคัญได้แก่ การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม จำนวน 4 ราย อันเป็นผลมาจากการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องในการจับกุมเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ เครือข่ายแม่มนต์ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท
3. การปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายทุกประเภท จำนวน 138,660 รายการ ปิดกั้นเว็บไซต์ประเภทพนันออนไลน์ จำนวน 58,273 รายการ เพิ่มขึ้น 34.3 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2566
4. มาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด และตัดตอนการโอนเงิน การระงับบัญชีม้าสะสมถึงเดือนสิงหาคม 2567 รวมกว่า 1,000,000 บัญชี แบ่งเป็นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปิด 450,000 บัญชี ธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี และศูนย์ AOC ระงับ 291,256 บัญชี
5. มาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า และซิมที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง ด้วยการระงับหมายเลขโทรศัพท์ที่มีการโทรออกเกิน 100 ครั้งต่อวัน จำนวน 80,731 หมายเลข มีผู้มายืนยันตัวตน 418 หมายเลข ไม่มายืนยันตัวตน ระงับหมายเลขแล้ว จำนวน 80,313 หมายเลข , การกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย จำนวนกว่า 2.8 ล้านหมายเลข , การขับเคลื่อนมาตรการคัดกรองผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง โดยใช้ระบบคัดกรองผู้ใช้งาน (Sim Screening) ตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชนว่าตรงกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียน โมบายแบงก์กิ้งกับธนาคารหรือไม่ เพื่อตรวจสอบกลุ่มบัญชีที่มีความเสี่ยงถูกใช้เป็นบัญชีม้า
6. การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงาน กสทช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบการลักลอบลากสายสัญญาณข้ามแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต
7. การแก้ปัญหาหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินมาตรการแก้ไขกฎหมาย COD หรือซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง โดยออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการบริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ต.ค 67 เป็นต้นไป
8. การบูรณาการข้อมูล และอื่น ๆ กระทรวงดีอี ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย สมาคมโทรคมนาคม ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ศูนย์ AOC 1441 เป็นแพลตฟอร์มรับและแลกเปลี่ยนข้อมูลบูรณาการข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการจัดการบัญชีม้า ซิมม้า และคนร้ายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดในการจดทะเบียนนิติบุคคล กรณีบุคคลที่สำนักงานป้องกันและปราบปราม ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอีกด้วย /
.
นางสาว สายรุ้ง ธรรมมี
รายงานจังหวัดแพร่
ติดตามข่าวได้ที่เว็บไซต์
#คมชัด AEC TV ออนไลน์
#ข่าวนคร AEC TV ออนไลน์