อดีตผู้ใหญ่บ้าน อำเภอพนัสนิคม เครียดป่วยเป็นโรคลำไส้แผลโป่งพอง ตัดสินใจใช้อาวุธปืนเด็ดชีพ พร้อมภรรยา เพื่อนบ้านสงสัยไม่เห็นหน้าหลายวัน ได้กลิ่นโชย เปิดไปต้องผงะ นอนเสียชีวิตทั้งคู่ เขียนจดหมายสั่งเสียยกสมบัติให้ลูก
พ.ต.ท.ธีระเชษฐ์ ธิชาญ สารวัตร(สอบสวน )สภ.พนัสนิคม ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต ด้วยอาวุธปืน จำนวน 2 ราย ที่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 13 ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเข้าตรวจสอบเหตุ พร้อมกู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกอยู่ในสวนบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนพบผู้เสียชีวิตนอนข้างกันสภาพร่างขึ้นอืด ทราบชื่อคือ นายอรุณ วัชรางกูร อายุ 80 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลหมอนนาง อำเภอพนัสนิคม มีรอยกระสุนปืนเข้าที่แก้มขวา 1 นัด ส่วนอีกรายเป็นหญิงชื่อ นางวิลาสินี ธานะวาท อายุ 59 ปี มีบาดแผลรอยกระสุนเหนือราวนมซ้าย 1 นัด เป็นภรรยา ของอดีตผู้ใหญ่บ้าน คาดว่า เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 วัน ใกล้ๆผู้เสียชีวิตพบปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ที่มีปลอกกระสูนคาอยู่ และยังพบปลอกกระสุนที่ใช้งานไปแล้วอยู่บนพื้นหน้าห้องนอน นอกจากนี้บนโต๊ะทำงานยังพบกระดาษเขียนด้วยลายมือ 1 แผ่น มีข้อความเขียนยกสมบัติเป็นที่ดิน อยู่อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา กว่า 20 ไร่ ให้กับลูกเท่ากัน ที่เหลือให้ทำการทำบุญทอดกฐิน ที่ถูกวางทับด้วยปากกา 1 ด้าม สอบถาม นายเอ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนเองไม่เห็นผู้เสียชีวิตมาหลายวัน จึงเข้าไปเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ด้วยความสงสัย ได้ไปสอบถามหาทั้งสองคน ที่บ้านภรรยาของผู้ตายที่บ้านเซิด ที่อยู่ต่างตำบล แต่ก็ไม่มีใครเห็น จึงน้อนกลับมาบ้านเกิดเหตุ พร้อมแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และญาติๆ เจ้าของบ้านทราบและมาร่วมค้นหา เดินสำรวจรอบบ้านได้กลิ่นโชยออกมา ตนเองพยายามถอดบานเกล็ดหน้าต่างออก เพื่อจะเข้าไปในตัวบ้าน แต่ปรากฏว่าประตูหลังบ้านไม่ได้ล๊อค จึงเข้าไปในบ้าน พบทั้งคู่นอนเสียชีวิตด้วยอายุปืนนอนข้างกันในห้องนอน
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การสันนิฐาน ว่า อดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่อายุมากแล้ว และจากการสอบถามโดยรอบทราบว่า ป่วยเป็นโรคลำไส้แผลโป่งพอง ทำให้คิดสั้น ตัดสินใจพาภรรยาไปด้วย โดยการใช้ปืนยิงเมียก่อน และใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ฆ่าตัวเองตายตาม อย่างไรก็ตาม จะส่งศพไปชันสูตร เพื่อทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด ต่อไป