ยะลา – ยิ่งใหญ่ งานมวยชายแดนใต้ “ศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรายอสานสัมพันธ์เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้”

 

ยะลา – ยิ่งใหญ่ งานมวยชายแดนใต้ “ศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรายอสานสัมพันธ์เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้”

 

 

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ สนามมวยชั่วคราวอาคารพระเศวตสุรคชาสาร(สนามช้างเผือก)เทศบาลนครยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
ฯพณฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมนายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน
“ศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรายอ
สานสัมพันธ์เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้”

 

 

 

โดยมี นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. คุณธีรวัฒน์ ศิลปะอาชา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกีฬามวย นายสุไลมาน บือแนปีแน สมาชิกสภา จ.ยะลา เขต 1 นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภา จ.ยะลา เขต 3 นายกมลศักดิ์ ลีลาเมาะ สมาชิกสภา จ.นราธิวาส เขต 5 นายกูเฮ็ง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงยุติธรรม นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา นายมุขตาร์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ ประธานจัดการแข่งขัน) นายพิเชษฐ์ ชูทองอุปนายกสมาคมกีฬามวยไทย มรดกไทย พร้อมคณะผู้จัดงาน และประชาชน เข้าร่วมชมการแข่งขันในครั้งนี้

นายธนาวิทย์ ไชยานุพงษ์ นายกสมาคมกีฬามวยไทย มรดกไทย ในฐานะผู้จัดงานฯ กล่าวว่า ในนามของนายกสมาคมกีฬามวยไทย มรดกไทย ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงที่ได้กรุณามาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรายอสานสัมพันธ์เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจ ชายแดนใต้อำเภอเมืองจังหวัดยะลา ระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2567 ณ สนามมวย ชั่วคราวอาคารพระเศวตสุรคชาสาร(สนามช้างเผือก) เทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

โดยวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงแชมป์มวย 14 คู่ จาก 30 ค่ายมวย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของสงขลา และวันที่ 17 สิงหาคม เป็นมวยไทยรากหญ้า จากค่ายมวยเกียรติเพชร ทั้งหมด 10 คู่ ที่เคยผ่านเวทีชิงแชมป์มวยภาคใต้ และเวทีมวย 7 สี

“วันนี้นับเป็นนิมิตรหมายอันดีที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพ ด้านการกีฬาของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬามวยไทย ถือเป็นกีฬาประจำชาติและเป็นกีฬาชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อของประเทศอยู่ในชื่อกีฬา”

นายธนาวิทย์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจึงได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมกีฬามวยไทยโดยใช้กีฬามวยไทยเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่วัฒนธรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

โดยมีแนวทางที่สำคัญ ดังนี้
เราจะส่งเสริมให้มีการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี กระจายไปตามจังหวัดต่างๆให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับบุคคลในวงการมวยไม่ว่าจะเป็นนักมวย ครูมวยผู้ตัดสิน ค่ายมวย และผู้จัดการแข่งขันกีฬามวยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตามรัฐบาลเองยังคงมุ่งหวังที่จะเห็นSoftpowerของประเทศไทยซึ่งต้องอาศัยการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ดนตรีพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน และสินค้าของดีขึ้นชื่อของจังหวัดยะลา รวมไปกับการแข่งขันมวยไทย และกระผมหวัง เป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยยกระดับมวยไทยให้เกิดเป็นวิถี“วัฒนธรรมและค่า

นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ กล่าว รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรอยอสานสัมพันธ์เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจ ชายแดนใต้อำเภอเมืองจังหวัดยะลา ระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2567 ณ สนามมวย ชั่วคราวอาคารพระเศวตสุรคชาสาร(สนามช้างเผือก) เทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลาแห่งนี้

ยะลาเป็นเมืองใต้สุดของประเทศไทยที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและ อากาศบริสุทธิ์สดชื่นพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไปเยือนยะลาเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่ามีผังเมืองที่สวยที่สุดติดอันดับท็อป 30 ของโลก

จังหวัดยะลาเรายังมีนักกีฬาที่มีฝีมือมากมายจังหวัดยะลาเป็นสถานที่รวมนักกีฬาฝีมือดี ไม่ว่าจะเป็นนักมวย และนักฟุตซอลชื่อดังที่ล้วนแล้วเป็นลูกหลานของชาวจังหวัดยะลาและพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดการแข่งขันมวยไทยในจังหวัดยะลาในครั้งนี้ จะนำความสุขและสามารถช่วยจุดประกายให้กับเยาวชนท้องถิ่นมีความรัก และมุ่งมั่นในการออกกำลังกาย เล่นกีฬาต่อไป”

นายซูการ์โน กล่าวต่อว่า การจัดงานครั้งนี้นอกจากทำให้เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ4อำเภอของสงขลา มีโอกาสได้แข่งขันมวยไทยแล้วยังทำให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสชมกีฬามวยและยังช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นอีกด้วย

 

 

อะหมัด/มาวันดี/ยะลา

/18ส.ค.67/

082-260-8313

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *