อะหมัด/มาวันดี/ยะลา/2 ส.ค.67/082-260-8313
กอ.รมน.ภาค 4 สน. จับมือ กกล.ตร.จชต. บูรณาการกำลังหน่วยงานความมั่นคง แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า 440,000 เม็ด ไอซ์กว่า 1,000 กก. ระบุพร้อมเดินหน้าปราบปราม จับกุม ผู้ค้ายาเสพติดต่อเนื่อง
วันนี้ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ อาคารกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พลโท ศานติ ศกุนตนาค ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมแถลงการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลตำรวจตรี นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นาย วันชัย เพชรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และนายจุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยส่วนสืบสวนสอบสวน กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 ทำการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนสามารถจับกุมค้ายาเสพติดรายสำคัญจำนวน 2 เครือข่าย ผู้ต้องหา 9 คน ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 441,760 เม็ด ไอซ์ จำนวน 1,000 กิโลกรัม และทำการตรวจยึดทรัพย์เบื้องต้นรวม 15 รายการมูลค่าประมาณ 20,614,000 บาท สามารถจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา
นายไชยพร นิยมแก้ว รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานีได้ให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของจังหวัด โดยในส่วนของฝ่ายปกครองจะเจ้มงวดในมาตรการป้องกันยาเสพติดทุกรูปแบบที่จะไม่ให้มียาเสพติดได้ระบาดเข้ามาในพื้นที่ ไม่ว่าการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ในตำบลหมู่บ้าน ได้สร้างเครือข่ายเป็นตราสับปะรดช่วยกันเฝ้าระวัง นำมาซึ่งการจับกุมครั้งนี้
ด้าน พลโท ศานติ ศกุนตนาค ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ระบุว่า สำหรับนโยบายการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้กำหนดเป็นวาระของชาติ และผมก็ได้นำเรียนตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งใหม่แล้วว่า ได้ให้ความสำคัญกับยาเสพติดเป็นลำดับแรก เพราะทราบว่ายาเสพติดได้ระบาดเข้ามาสู่ทุกชุมชน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือส่วนต่างๆ รวมถึงพี่น้องประชาชน ก็ได้นำนโยบายมาและจะต้องดำเนินการเกี่ยวกับผู้ค้าหลักๆ โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย และได้มอบนโยบายให้กับกำลังพล ทหาร ตำรวจหรือฝ่ายปกครอง เราจะต้องหาข้อมูลเชิงลึกที่จะ ดำเนินการสกัดกั้น ซึ่ง 14 จังหวัดภาคใต้ที่รับผิดชอบนั้น มีเส้นทางหลักและเส้นทางรอง หลายเส้นทาง ก็พยายามที่จะคุมทุกพื้นที่ ทุกด่านตรวจ ทุกตรวจที่มีอยู่ รวมทั้งติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหวของยาเสพติดในทุกประเภทที่ลงมาเข้าสู่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งถ้าว่ายาเสพติดที่ไหลลงมาทางภาคเหนือมาถึงภาคใต้ และส่วนใหญ่จะไปออกสู่ประเทศที่สาม เป็นไปได้ว่าในพื้นที่ภาคใต้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่พักยา แล้วก็ทยอยออกสู่ประเทศที่สาม ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางเรือ ทางน้ำ ก็ตาม ซึ่งเรามีการวางแผนดำเนินการจับกุมและติดตามอย่างต่อเนื่อง อยากให้ พี่น้องประชาชน มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ทอดทิ้ง เราดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่บางครั้งบางส่วนต้องใช้เวลาที่จะดำเนินการ แต่ครั้งนี้เราใช้เวลานานที่จะดำเนินการจับคุณได้ เป็นการตัดวงจรเพื่อไม่ให้ขยายลงสู่ชุมชนต่อไป
อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะนำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาให้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการด้วยการช่วยเเจ้งเบาะเเสผู้ค้า หรือเครือข่ายการกระทำผิด ที่ช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด / อำเภอ หรือที่สายด่วน 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป