ผู้ว่าฯ นครพนม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม เน้นย้ำขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ผู้ว่าฯ นครพนม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม เน้นย้ำขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
.
วันนี้ (19 พ.ค. 67) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยตนได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนนายอำเภอ ทีมงานอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ให้กำลังใจแก่กลุ่มภาคีเครือข่ายและพี่น้องประชาชน ในเขตพื้นที่ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
.
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากการได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม ได้มีกิจกรรมสำคัญดังนี้ 1) ติดตามการขับเคลื่อนนโยบาย สำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการดำเนินการกับนายกเทศมนตรีตำบลน้ำก่ำ ผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการและบุคลากร ในสังกัดเทศบาลตำบลน้ำก่ำ เช่น โครงการธนาคารขยะ โครงการบำบัดผู้เสพยาเสพติด โครงการจักรยานขาไถเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การขับเคลื่อนโครงการ “หน้าบ้าน น่ามองนครพนมน่าอยู่” ดำเนินการจัดทำ 5 ส. ภายในบริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลน้ำก่ำ พร้อมรับทราบข้อมูลแนวทางการบริหารงานในพื้นที่ อุปสรรค ปัญหา และความต้องการของชาวตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม 2) ตรวจเยี่ยมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม และหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และตรวจสอบพื้นที่เฝ้าระวัง (จุดเพ่งเล็ง) การลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ตามแนวชายแดน อำเภอธาตุพนม เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ใช้ประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการและแนวทางการปฏิบัติในการป้องกัน และวางแผนจับกุมปราบปราม ผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติด ตามแนวชายแดน 3) นำหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกร ผู้เพาะปลูกพืชแปลงใหญ่ เพื่อรับทราบข้อมูล ปัญหา และอุปสรรค ตลอดจนความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อส่งเสริม และพัฒนารายได้ให้กับเกษตรกร และประชาสัมพันธ์ แนวทางการเข้าร่วมโครงการธนาคารโคกระบือ และการส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลในกระชัง ส่งเสริมรายได้ นำสู่การพัฒนาสุขภาพชีวิตอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนได้ตรวจเยี่ยมครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง จำนวน 2 ครัวเรือน ตามแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัย ให้กับผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง พร้อมดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือนให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในครัวเรือนเพื่อป้องกันเหตุอัคคีภัย อันเนื่องมาจากไฟฟ้าลัดวงจร คือ ครัวเรือนายอุโต บูรพา อายุ 79 ปี ราษฎรชาวตำบลน้ำก่ำ ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มของญาติ ซึ่งที่พักอาศัยทำจากไม้และกั้นด้วยแผ่นไวนิล มีสภาพไม่แข็งแรง และไม่ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ จึงดำเนินการประสานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันดำเนินการจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้กับบุคคลกลุ่มเปราะบาง โดยได้รับการอนุเคราะห์ที่ดินจากประชาชนในพื้นที่ และครัวเรือนนางสา ติลาชัย อายุ 92 ปี ราษฎรชาวตำบลน้ำก่ำ ซึ่งเป็นผู้พิการ และผู้สูงอายุ อาศัยอยู่เพียงลำพัง บริเวณใต้ถุนบ้าน โดยจังหวัดนครพนมได้ดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และมอบหมายให้ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมกันดำเนินการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุ ให้มีความเหมาะสมและปลอดภัย ถูกต้องตามแนวทางการสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการต่อไป พร้อมทั้งได้นำต้นพันธุ์พืชผักสวนครัว และจะทำแปลงผักให้กับผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง ได้มีพืชผักสวนครัวที่ปราศจากสารเคมีไว้ใช้บริโภคภายในครัวเรือน เสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร และเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน
.
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ตนได้เน้นย้ำให้ตำบลน้ำก่ำ ดำเนินโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Villages) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และการน้อมนำแนวทางการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” มีการส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก (World Soil Day) ของกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งมั่นสร้างการรับรู้ตามแนวคิด “ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน ” ให้เกิดการจัดการและอนุรักษ์ดิน และน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชีวิต ทำให้สังคม ชุมชน และโลกมีแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ (UN SDGs)

“ในการมอบนโยบายครั้งนี้ นอกจากจะได้กล่าวถึงการสร้างทีมงานเครือข่ายที่เข้มเเข็งแล้ว ยังได้กำชับให้ยึดพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะพี่น้องกลุ่มเปราะบาง เพื่อหาเเนวทางในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียมเเละเสมอภาค สิ่งสำคัญของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของภาครัฐต้องอุทิศกายและใจเพื่อส่วนรวมในการที่จะเป็นตัวเชื่อมประสาน เป็นโซ่ข้อกลางให้กับทุกภาคส่วน และเป็นผู้ขับเคลื่อนงานในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นรูปธรรม ตามปณิธานแห่งการ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และขอให้ข้าราชการทุกคนให้พึงตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนอยู่เสมอ หมั่นลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ coaching ให้กับประชาชน กระตุ้นปลุกไฟในหัวใจ สร้างกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนงาน ดูแล ความเป็นอยู่ ของประชาชนในพื้นที่ นำการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า Change for Good อย่างยั่งยืน” นายวันชัยฯ กล่าวในช่วงท้าย..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *