แก๊งมิจฉาชีพ ต้มดูดเงินอดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลบ้านโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย อ้างจะคืนเงินค่ามิเตอร์ไฟฟ้า จำนวน 4,000 บาท ให้ติดตั้ง app และสแกนใบหน้า รู้ตัวอีกทีเงินหายเกือบ 2 ล้านบาท
เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทีมผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หลังจากทราบว่ามีอดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านโพธิ์อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
ถูกแก๊งมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า อ.โพนพิสัย โทรหาจะคืนค่ามิเตอร์ไฟฟ้า จำนวน 4,000 บาท และหลอกให้ติดตั้ง app มีการสแกนใบหน้า รู้ตัวอีกทีเงินในบัญชีถูกดูดหายไป 1,950,000 บาท
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 4 บ้านปัก ต.บ้านโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เป็นบ้านชั้นเดียวกำลังก่อสร้าง พบกับนายนวน เถื่อนลือชัย อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นอดีต ผอ.โรงเรียนปัก ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นอดีต ผอ.ร.ร. เกษียณอายุราชการเมื่อปี66 เป็น ผอ.รร.บ้านปัก เมื่อประมาณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์แปลกๆ โทรเข้ามาแจ้งว่าจะขอเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่ที่บ้าน ผอ.ฯ ตนก็รออยู่เป็นอาทิตย์ก็ไม่เห็นมาเปลี่ยน ที่จำได้เพราะวันนั้นเป็นงานบวชญาติ และเมื่อวันที่ 24
กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 094-931-1058 โทรเข้ามาและอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า บอกว่ามิเตอร์ไฟฟ้าผมเป็นมิเตอร์เช่า จะได้รับเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืน จำนวน 4,000 บาท แล้วหลอกให้ติดตั้ง link PEA smart pro
ในโทรศัพท์มือถือ จากนั้น ตนจึงทำตามขั้นตอนที่เขาบอก แล้วให้สแกนใบหน้า ตนก็สแกนใบหน้าไป 2-3 ครั้ง เครื่องโทรศัพท์ก็ดับลง หน้าจอมืด ช่วงนั้นคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ เพราะเชื่อมั่นกับการไฟฟ้าอยู่แล้ว แก๊งมิจฉาชีพบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.โพนพิสัย ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ ตอนนั้นลูกสาวกลับมาพอดี จึงได้โทรระงับบัญชีที่ส่วนกลางของธนาคาร และโทรแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ สรุปเงินถูกดูดออกจากบัญชีไปถึง 1,950,000 บาท ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ตน.ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.โพนพิสัยอีกทางหนึ่งด้วย
ผอ.ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการเกษียณอายุราชการ มีเงิน กบข. จำนวน 1,400,000 บาท เงินเดือนสะสมตั้งแต่รับราชการมาอยู่ในบัญชีอีก 780,000 บาท รวมมีเงินอยู่ในบัญชี 2,180,000 บาท ถูกแก๊งมิจฉาชีพดูดเงินไป 1,950,000 บาท ยังโชคดีอายัดบัญชีไว้ทันเหลือเพียง 230,000 บาท ตอนนี้ลูกสาวพาไปปิดบัญชีแล้ว ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่รับราชการครูมา เก็บไว้เพื่อจ่ายค่าสร้างบ้านและอื่น ๆอีก ผอ.จึงวิงวอนเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือหาทางนำเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตรับราชการ กลับคืนมาให้ด้วยเพราะไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว จากการตรวจสอบเงินถูกโอนไปที่บัญชีของนายมงคล คำอ้าย เป็นธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 1,950,000 บาท และนายมงคล คำอ้าย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าทั้งประเทศมีอยู่ 7 คน เท่าที่ทราบน่าจะเป็นการโอนเพียงครั้งเดียว ก็น่าแปลกที่ทำไมโอนเงินได้เยอะขนาดนี้ พอโอนเงินเราเสร็จหน้าจอโทรศัพท์จะขึ้นสีแดงแจ้งว่า “บัญชีคุณถูกแก๊งมิจฉาชีพดูดเงิน” มีคนเห็นหลายคนแต่ช่วงนั้นตกใจและกำลังวุ่นจึงไม่มีใครได้ถ่ายภาพไว้ เวลาเงินถูกโอนออกไปคือ 17.52 น. (24 ก.พ.67) ตอนนี้ก็ได้แค่รอความหวังจากเจ้าหน้าที่ติดตามให้
ด้านนางน้อยฯ ภรรยา ผอ.กล่าวว่า เงินก้อนนี้มันมีค่าทางจิตรใจมากฯ เหมือนมาฆ่ากันทั้งเป็นไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น คนที่โทรมาก็น่าจะเป็นคนไทย เพราะพูดทั้งภาษาไทยทั้งภาษาอีสาน ส่วนตัวอยากเห็นหน้าคนที่ไปเปิดบัญชีม้า ทำไมถึงมาสร้างความทุกข์ความรำบากให้กับคนอื่น ถ้าจับได้อยู่ไกลแค่ไหนก็จะไปดูหน้า–
ฤาษีลภ-โภควินทร์ จังหวัดหนองคาย