#สปสช.เขต 3 เร่งชวนคลินิกเอกชนและร้านยา – หวังเพิ่มหน่วยนวัตกรรม รองรับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 จังหวัดนครสวรรค์ 

#สปสช.เขต 3 เร่งชวนคลินิกเอกชนและร้านยา – หวังเพิ่มหน่วยนวัตกรรม รองรับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 จังหวัดนครสวรรค์
.
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 • สปสช. เขต 3 นครสวรรค์ ร่วมกับ สปสช.ส่วนกลาง และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ จัดประชุมฯ และเชิญชวนคลินิกเอกชน/ร้านยา สมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อร่วมดูแลประชาชนไปด้วยกัน ตามนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ภายใต้โครงการ “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่” ระยะที่ 2 ณ ห้องประชุม โรงแรมแกรนด์ฮิลล์ รีสอร์ทแอนด์สปา อ.เมือง จ.นครสวรรค์ วัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวน ผู้ประกอบกิจการหน่วยบริการเอกชน ได้แก่ คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกพยาบาลฯ คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกแพทย์แผนไทย และร้านยา
.
โดยมี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ นพ.อำนาจ น้อยขำ กล่าวเปิดงาน และมีผู้บริหารจาก สปสช. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ นพ.สินชัย ต่อวัฒนกิจกุล รองเลขาธิการ นพ.เอกรินทร์ อุ่นอบ ผู้อำนวยการเขต สปสช. เขต 3 นครสวรรค์ และศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา กล่าวเชิญชวนเข้าร่วมจัดบริการฯ
.
ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เปิดให้ประชาชนใช้บัตรประชาชนเข้ารับการรักษาได้ในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเริ่มระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ใน 4 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส ไปแล้วนั้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากข้อมูลระหว่างวันที่ 7-25 ม.ค. 2567 มีการให้บริการและเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการในพื้นที่ 4 จังหวัดนี้แล้ว 36.29 ล้านบาท
โดยเป็นการเบิกจากโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (OP Anywhere) 27.73 ล้านบาท และจากหน่วยบริการนวัตกรรม ได้แก่ คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกทันตกรรม คลินิกพยาบาล ร้านยา รวมอีก 8.56 ล้านบาท ดังนั้นในวันนี้ เราเปิดระยะที่ 2 อีก 8 จังหวัดซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการกับประชาชนในเดือนมีนาคม 2567 นี้ ได้แก่ นครราชสีมา นครสวรรค์ พังงา เพชรบูรณ์ สระแก้ว สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ
ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวฯ สปสช.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสิทธิบัตรทอง จึงขอเชิญชวนสถานพยาบาลเอกชนประเภทต่างๆ รวมถึงร้านยา ในพื้นที่เขต 3 ที่จังหวัดนครสวรรค์ เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบเพื่อดูแลประชาชน และ ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ สามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงลดความแออัดภายในโรงพยาบาล ขั้นตอนการให้บริการ และเอกสารที่เป็นกระดาษ ทำให้สามารถเบิกจ่ายค่ารักษาได้รวดเร็ว
เนื่องจากประชาชนใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถรับบริการได้เลยไม่ว่าจะมาจากจังหวัดใด เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันหมดแล้ว อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกในการยืนยันตัวตนหลังรับบริการมากขึ้นอีกด้วย ตลอดจนการเพิ่มช่องทางในการรับยา โดยมีทั้งการรับที่โรงพยาบาล รับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน และให้ไรเดอร์ไปส่งถึงบ้าน

“ในฝั่งการให้บริการ ทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้ประชาชนสามารถไปรับบริการได้ทุกที่ ในฝั่งของการสนับสนุน สปสช. เราก็พยายามอำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการให้มากที่สุด ทั้งระบบการขึ้นทะเบียนที่สะดวกรวดเร็ว และพัฒนาระบบ new-eClaim ซึ่งจะอำนวยความสะดวกแก่หน่วยบริการในการเบิกเงิน รวมทั้งเวลาการจ่ายเงินค่าบริการให้หน่วยบริการภายใน 72 ชั่วโมงเพื่อให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอเชิญชวนหน่วยบริการต่างๆในพื้นที่จังหวัดนำร่องนี้เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบ สปสช.จะอำนวยความสะดวกแก่ท่านให้มากที่สุด”
.
โดยในช่วงบ่ายของการจัดประชุมฯ มีการแบ่งกลุ่มให้ทางหน่วยบริการเอกชนพบกับสภาวิชาชีพ ในประเด็นบทบาทของสภาวิชาชีพในการขับเคลื่อนนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวไปได้ทุกที่ร่วมกับ สปสช. เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับหน่วยบริการเอกชน ที่สนใจหรือกำลังตัดสินใจจะเข้าร่วมขับเคลื่อนนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวไปได้ทุกที ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ทพ.สมยศ นะลำเลียง เลขาธิการทันตแพทยสภา
กลุ่มที่ 2 ทนพ.สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ และ ผศ.ดร.ลิขิต ปรียานนท์ เลขาธิการสภาเทคนิคการแพทย์
กลุ่มที่ 3 รศ.ดร.สุณี เลิศสินอุดม ผู้แทนสภาเภสัชกรรม
กลุ่มที่ 4 รศ.ดร.เวหา เกษมสุข ผู้แทนสภาการพยาบาล
กลุ่มที่ 5 อ.สายใจ นกหนู ผู้แทนสภากายภาพบำบัด
กลุ่มที่ 6 อ.ชเอม ขุมเพชร ผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทย
และมีทาง ธนาคารกรุงไทย สาขานครสวรรค์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ และเครือข่ายโรงพยาบาลในพื้นที่ มาอำนวยความสะดวกให้กับ หน่วยเอกชนที่สนใจ

ทั้งนี้ หากคลินิกเอกชนและร้านยาที่สนใจ เข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ที่ https://ossregister.nhso.go.th สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 กด 5 (provider center) หรือติดต่อได้ที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาต เขต 3 นครสวรรค์ 0-5637-1831-4
ขอบคุณภาพ-ข่าว : สปสช.เขต 3 นครสวรรค์
ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *