นายกรัฐมนตรี ห่วงภัยแล้ง กระทบภาคการเกษตร และน้ำกิน น้ำใช้ของประชาชนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพร้อมรับมือ และรณรงค์งดปลูกข้าวนาปรัง//

นายกรัฐมนตรี ห่วงภัยแล้ง กระทบภาคการเกษตร และน้ำกิน น้ำใช้ของประชาชนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพร้อมรับมือ และรณรงค์งดปลูกข้าวนาปรัง//

ด้วย ครม. เห็นชอบมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/2567 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2567 โดยมอบหมายให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว และรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ทราบ และสรุปผลการดำเนินงานรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบด้วย
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ได้บูรณาการทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/2567 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมพร้อมรับมือได้ทันต่อสถานการณ์ ประกอบด้วย
ด้านน้ำต้นทุน (Supply) มาตรการที่ 1 เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรองพร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ (ก่อนและตลอดฤดูแล้ง) มาตรการที่ 2 ปฏิบัติการเติมน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ (ก่อนและตลอดฤดูแล้ง)
ด้านความต้องการใช้น้ำ (Demand) มาตรการที่ 3 กำหนดแผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรเตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำนอง (ก่อนและตลอดฤดูแล้ง) มาตรการที่ 4 บริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด (ตลอดฤดูแล้ง) มาตรการที่ 5 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดน้ำและลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วน (ก่อนและตลอดฤดูแล้ง) มาตรการที่ 6 เฝ้าระวังและแก้ไขคุณภาพน้ำ (ตลอดฤดูแล้ง)
ด้านการบริหารจัดการ (Management) มาตรการที่ 7 เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำของชุมชน (ตลอดฤดูแล้ง) มาตรการที่ 8 สร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์ (ก่อนและตลอดฤดูแล้ง) – มาตรการที่ 9 ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน (ตลอดและหลังจากสิ้นสุดฤดูแล้ง)


จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2567 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ขาดแคลนน้ำหรือเสี่ยงภัยแล้ง ส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการจ้างแรงงานให้กับประชาชน หรือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง รวมถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ การซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ , การปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ , การสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค/บริโภค , การเพิ่มน้ำต้นทุน เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และการเตรียมความพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร ทั้งนี้ การดำเนินการมาตรการและโครงการดังกล่าว ให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/2567 พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการให้ สทนช. ทราบทุกวันที่ 5 ของเดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูแล้ง เพื่อให้การขับเคลื่อนตามมาตรการเป็นไปตามแผนและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอหน่วยงานที่ดูแลน้ำ คือ กรมชลประทานให้รายงานสถานการณ์การกักเก็บน้ำ สำหรับช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง พร้อมทั้งรณรงค์ขอความร่วมมือไม่ให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังเพิ่มเติมเพราะจะส่งผลทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรได้ และสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานร่วมกับจังหวัด ประชาสัมพันธ์รณรงค์ขอความร่วมมือเกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปรังเพิ่มเติม และให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ เช่น เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ ในการช่วยเหลือประชาชนในกรณี หากเกิดสถานการณ์ภัยแล้งขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *