นครพนม-ไม่ต้องใช้แสตนด์อิน พระกระโดดกำแพงของจริง วงจรปิดจับภาพเฒ่าวัย 65 ปีคลั่งยา บุกวัดทุบพระพุทธรูปพังยับ ไล่ตีพระสงฆ์หนีกระเจิง เจ้าอาวาสโร่แจ้งตำรวจ

นครพนม-ไม่ต้องใช้แสตนด์อิน พระกระโดดกำแพงของจริง วงจรปิดจับภาพเฒ่าวัย 65 ปีคลั่งยา บุกวัดทุบพระพุทธรูปพังยับ ไล่ตีพระสงฆ์หนีกระเจิง เจ้าอาวาสโร่แจ้งตำรวจ
*****
วันที่ 23 มกราคม 2567 เวลา 10.30 น. นายทองไมค์ ดาแพง อายุ 54 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม พร้อม พระมหาสมศักดิ์ นาถสกฺกโก (ปะทา) อายุ 36 ปี พรรษาที่ 15 เจ้าอาวาสวัดปราโมธอันทวัน ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.(หญิง)ปาริฉัตต์ ทาบทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีกับนายหนูพันธ์ ลัดดา หรือเวียง อายุ 65 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ 5 ต.คำเตย ก่อเหตุทำลายพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาการเปรียญ ได้รับความเสียจำนวน 4 องค์ นอกจากนี้ยังใช้แจกันไม้พยายามทำร้ายพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ 3 รูป จนต้องวิ่งแตกหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.16 น. วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา
พระมหาสมศักดิ์เล่าเหตุการณ์ระทึก ว่า ในวันและเวลาดังกล่าวขณะที่ท่านอยู่หน้ากุฏิ นั่งสนทนาธรรมกับพระลูกวัดอีก 2 รูป คือ พระเขตร์ อัคคะธัมโม อายุ 48 ปี และ พระวิชัย เขมะวิโร อายุ 72 ปี ปรากฏว่ามีนายหนูพันธ์หรือเวียง ซึ่งมีบ้านอยู่ทางเข้าวัด ห่างกันประมาณ 100 เมตร เดินเข้ามาที่ศาลาการเปรียญ คว้าแจกันไม้หน้าพระประธานฟาดพระพุทธรูป โดยเฉพาะรูปหล่อพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้าย และ พระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวาของพระโคตมพุทธเจ้า ถูกนายเวียงฟาดจนพระเศียรและข้อพระบาทหัก ส่วนพระประธาน 2 องค์ก็ถูกทำลายเสียหายด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นนายเวียงก็ควงแจกันไม้ ตรงดิ่งมาหาพระสงฆ์ทั้ง 3 รูปที่พยายามเข้ามาห้ามปราม ปากก็ตะโกนว่าตนเป็นยักษ์ เป็นท้าวเวสสุวรรณ เห็นสีเหลืองไม่ได้ ต้องทำลายให้หมด พระทั้ง 3 รูปถลกสบงได้ก็วิ่งหนีกระเจิง โดยพระเขตร์กับหลวงตาวิชัย เห็นจวนตัวจึงวิ่งปีนกำแพงวัด กระโดดหนีตายออกไปหาชาวบ้านช่วยเหลือ โดยไม่ได้สวมใส่รองเท้า ขณะพระมหาสมศักดิ์เจ้าอาวาสวิ่งออกไปทางประตูเข้าวัด พร้อมกดโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านรีบมาระงับเหตุ กระทั่งมีตำรวจประจำตำบลมาสมทบ ซึ่งต่อมานายเวียงมีอาการสงบลง และยอมรับว่าเกิดคลุ้มคลั่ง เพราะมีคนมากระซิบข้างหูว่า ตนเองเป็นท้าวเวสสุวรรณต้องทำลายพระให้สิ้นซาก จึงยอมทำตามคำสั่งดังกล่าว ต่อมาทางผู้นำหมู่บ้านนำตัวนายเวียงไปตรวจร่างกายที่ รพ.นครพนม เบื้องต้นมีฉี่สีม่วง แต่ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี
ในกรณีนี้นายทองไมค์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.คำเตย เปิดเผยว่าเนื่องจากนายหนูพันธ์หรือเวียง มีฐานะทางบ้านยากจน เคยแต่งงานมีครอบครัวได้ลูกเป็นหญิง 2 คน ภายหลังแยกทางกับภรรยา เพราะนิสัยชอบดื่มเหล้า หรืออาจไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อาศัยทำงานรับจ้างไปวันๆ ไม่มีประวัติรักษาด้านจิตเวช ก่อนเกิดเหตุทราบจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ว่า นายเวียงไม่ได้หลับไม่ได้นอนมา 2-3 คืน จะพูดเพ้ออยู่คนเดียวว่าตนเองเป็นยักษ์
เหตุที่ปล่อยให้เวลาผ่านมา 3 วันถึงก่อนมาแจ้งความ เพราะต้องเรียกลูกบ้านมาประชุม สอบถามว่าจะเอาอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ให้แจ้งความดำเนินกับนายเวียง จะได้มีประวัติเป็นหลักฐาน แม้จะทราบดีว่านายเวียงคงไม่มีเงินมาจ่ายค่าเสียหายได้ก็ตาม
ด้าน พระมหาสมศักดิ์เจ้าอาวาส เปิดเผยว่าองค์พระพุทธรูปที่เสียหาย คงคิดเป็นมูลค่าไม่ได้ เพราะมีคุณค่าทางจิตใจของสาธุชน แต่เมื่อถูกทำลายแล้วก็มีความเห็นจะทำบุญ เพื่อสมทบทุนหล่อพระพุทธรูปองค์ใหม่ขึ้นมาทดแทน และอยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวนายเวียงเข้ารักษาอาการ เพราะทุกวันนี้นายเวียงยังอยู่ในชุมชน จึงเป็นที่หวาดระแวงทั้งพระและญาติโยม ไม่รู้จะคลุ้มคลั่งอีกเมื่อไหร่
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดปราโมธอันทวัน พบพระเขตร์และหลวงตาวิชัย ได้เล่านาทีระทึกว่านายเวียงตรงดิ่งมาหมายจะทำร้าย จึงปีนกำแพงวิ่งหนีตายกับพระเขตร์ ไม่รู้ว่าตอนนั้นปีนไปได้อย่างไร ซึ่งหลวงตาวิชัยได้เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้นายเวียงเคยบุกมาที่กุฏิ ทุบทำลายพระบูชาและเต็นท์เสียหายหมด ครั้งนี้ก็โผล่มาอีก ทุกวันนี้จึงหวาดระแวงอยู่
ขณะเดียวกันนายจร ไชยมงคล อายุ 73 ปี มีบ้านอยู่หน้าวัดก็หวาดกลัว หากนายเวียงยังไม่ได้การรักษา ไม่รู้อาการกำเริบจะเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าเห็นก็ต้องหลบเข้าบ้าน เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน ไม่ต่างจากนางฮาบ นวลก้อง อายุ 67 ปี ที่มีบ้านติดกับบ้านของนายเวียงผู้ก่อเหตุ ก็ยิ่งระแวงว่าหากคลุ้มคลั่งขึ้นมาจะทำอย่างไร เพราะมีบ้านอยู่ติดกัน
ทางด้าน นายลา ลัดดา อายุ 70 ปี พี่ชายของนายเวียง เปิดเผยว่ามีพี่น้องเป็นชายรวม 3 คน ตนเป็นพี่คนโต นายเวียงเป็นน้องคนเล็ก ส่วนตัวไม่รู้สึกหวาดกลัว เพราะไม่ได้นอนด้วยกัน ถ้ามีอาการก็ต้องเผ่นเช่นกัน โดยลักษณะบ้านยกพื้นสูงใต้ถุนเลี้ยงวัว มีสภาพเก่ามาก ถึงขณะนี้ชาวบ้านต่างหวาดกลัว แทบไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะนายเวียงยังแบกจอบเดินเลาะไปมาอยู่ตลอด
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *