#ชมคลิป สส.บัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคท้องที่ไทย ร่วมประชุมสภาโดยอภิปรายขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท

สส.บัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคท้องที่ไทย ร่วมประชุมสภาโดยอภิปรายขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท
ใน 3 กระทรวง คือ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้ใช้เงินใช้งบประมาณไปมากกับการใช้จ่าย ตอนนี้ใช้มากกว่าหา สิ่งที่จะหามาเติมตอนนี้ ผมมองอยู่ว่าการท่องเที่ยวและกีฬา โดยเฉพาะท่านนายกได้ไปเปิดฟรีวีซ่าของประเทศจีน วันนี้ก็มีข่าวดีจากทางจีนอาจจะมาทำ MOU กับทางเชียงราย เชียงใหม่ ซึ่งบินตรงในโอกาสที่จะฟรีวีซ่าที่จะมาถึงในเร็ววันนี้
ขออนุญาตให้เปิดไปในหลาย ๆ ประเทศ เพราะว่าการท่องเที่ยวของเรานี่จะได้ขายดี และเพื่อมันเป็นงบประมาณที่หาได้เยอะสำหรับในประเทศไทยในช่วงนี้ ก็ฝากทางรัฐบาลให้
ดำเนินการเรื่องนี้ต่อให้เร็วที่สุด
อีกส่วนหนึ่งที่ส่วนเกี่ยวกับเรื่องเกษตร ส่วนใหญ่พวกเราบริโภคกันอยู่ทุกวัน
ก็คือเรื่องข้าว เรื่องข้าวนี่คุยกันมาหลายรัฐบาลมาก ตั้งแต่ปี 2547 จนวันนี้ปี 2567 ใช้เวลาเกือบ 20 ปี เราใช้งประมาณไปประมาณเกือบ 2 ล้านล้านบาท โดยถัวเฉลี่ยปีหนึ่งประมาณเกือบ
100,000 ล้านบาท เราใช้งบประมาณแบบนี้ใช้ไปทุกปี ๆ ในภาษีของประชาชนที่หามาได้และ
ใช้ไป ๆ โดยทิศทางที่ยังหาไม่เจอว่ามันควรจะแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้อง ก็ขอให้ข้อสังเกตอย่างนี้ ข้าวเป็นส่วนประกอบของประเทศไทยและเป็นปัญหาของประเทศไทยที่ทุกรัฐบาลต้องแก้
ที่ผ่านมาก็มีอยู่ 2 เรื่อง ที่แก้กัน ก็คือ
เรื่องของการจำนำข้าว การจำนำข้าวนี่ดี ในส่วนของเกษตรกรที่ได้รับราคา
จากการส่วนต่างของการให้ราคาข้าวที่สูงขึ้นจากตลาดความเป็นจริง นิดหนึ่งเพื่อให้เกษตรกรนี่
มีความมั่นคงในอาชีพ แต่ไปเสียในช่วงปลายอยู่นิดเดียว ที่มีการทุจริตที่เห็นเป็นข่าวกันขึ้นมา แล้วพอไปอีกรัฐบาลหนึ่งก็กลายเป็นเรื่องของประกันรายได้ ประกันรายได้ คือ
อะไร ประกันรายได้คือการที่ปล่อยไปให้เป็นไปตามกลไกตลาดที่ผ่านมา โดยคนที่กำหนด
ราคาก็คือผู้ส่งออก ซึ่งก็มีไม่กี่ราย ซึ่งเป็นรายใหญ่ ผู้ส่งออกกำหนดราคาขึ้นมา โรงสีอีก 1,000 โรงสี 2,000 โรงสีทั่วประเทศ ก็เป็นผู้ซื้อ และโรงสีก็อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องเกษตรกร
ส่วนคนที่ถูกต่อว่ามากที่สุดก็จะเป็นโรงสี ที่ผ่านมาก็เลยอยากให้ท่านสมาชิกทุกท่าน
ช่วยกันคิดว่าเราจะหาทางออกเรื่องนี้กันอย่างไรดี 20 ปี ก็ใช้งบประมาณปีหนึ่งเป็นแสน

โครงการชะลอการขายซึ่งก็ดี แต่ก็ได้รับงบประมาณแค่ 4,000 กว่าล้านบาท
ในฤดูที่ผ่านมา ซึ่งน้อยมาก และโดยเฉพาะเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ข้าว กรมการข้าวก็ถูกตัด
งบประมาณไปอีก ซึ่งในประเทศไทยการบริโภคข้าวปีหนึ่งประมาณสัก 8 ล้านตันที่อยู่ภายใน ส่งออกประมาณสัก 10 ล้านตัน แทบจะหมดแล้วนะครับ ทีนี้หลาย ๆ กระทรวงมี
ทูตพาณิชย์ ไม่ว่ากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผมว่าไปช่วยกันทำการตลาด
ต่างประเทศบ้างดีไหม เพื่อให้ข้าวของพี่น้องเกษตรกรได้ขายออกได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คิดโครงการเกษตร นำ นวัตกรรมเสริม แต่ว่างบประมาณก็ถูกตัดไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีพอมีทางออกที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ก็คือต้องไปคิด โดยการตั้งโครงการใหม่ ๆ
กันขึ้นมา เพราะว่าโครงการที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกรจริง ๆ
๑. เราต้องตั้งราคาขึ้นมาให้สูงพอที่เกษตรกรเขาลงทุนและเขาทำเหลือ เพื่อให้เขาทำอาชีพเขาต่อไปได้ และให้เขามีความแข็งแรงในอาชีพเขา ในเมื่อเกษตรกร ถ้ามีความแข็งแรงในอาชีพเขาแล้วนี่ เศรษฐกิจมันก็จะดีตามเอง ก็จะเข้าไปจับจ่ายใช้สอยในตลาดคนระดับล่าง ระดับกลาง ระดับบน ก็จะดีไปด้วยหมดแล้วประเทศนี้ก็จะได้อะไรคืนมา ภาษี ภาษีกลับคืนมาในระบบของเศรษฐกิจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ควรน่าจะทำนะ ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องเร่งทำและต้องรีบทำ
ถึงแม้ว่าประเทศไทยตอนนี้ราคาสินค้าข้าวก็ยังจะดีขึ้นอยู่ เพราะอะไร เพราะประเทศอินเดีย หยุดส่งออก ถ้าวันหนึ่งวันใดขึ้นมาประเทศอินเดียเขาเริ่มส่งออกเมื่อไร ปัญหาของประเทศไทย
คือเรื่องข้าว ยิ่งเฉพาะตอนนี้ราคาตันหนึ่ง 10,000 กว่าบาท ถือว่าเป็นโชคดีของรัฐบาล ที่ไม่ต้องไปใช้เงินสนับสนุนเยอะ ฝากเรื่องนี้ผ่านท่านประธานไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งทำและเร่งดำเนินการทำเรื่องนี้ เพื่อให้
ประเทศไทยและประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรที่เป็นชาวนามีความเข้มแข็งและมีความแข็งแรง ในอาชีพนี้ อีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของยาเสพติดที่งบประมาณใช้มากัน 4,000 กว่าล้านบาท ซึ่งถามว่าเพียงพอไหมแก้กันมาเท่าไร แก้กันมาหลายรัฐบาลจนถึงรัฐบาลปัจจุบันก็ยังแก้
เรื่องนี้กันไม่จบ โดยเฉพาะกฎหมายที่ออกมาอ่อนมาก ออกมาไม่รู้ว่ากลายเป็นเหมือนไปเข้าข้าง
ผู้ค้าไปแล้วนะครับ อย่างเช่น 5 เม็ด เป็นผู้เสพ ผู้เสพพอไปจับก็เอาไปเข้าศูนย์ขวัญรักษา 7 วัน
ก็ไปเกาะกลุ่มกัน กลับออกมากลายเป็นผู้ค้ากระจายเครือข่ายออกไปเยอะแยะเลยนะครับ ก็ฝาก
ถึงกระทรวงสาธารณสุข ช่วยตั้งงบประมาณหน่อยเถอะ เอาผู้ที่เสพนี่ไปรักษาสัก 3 เดือน 4 เดือน ให้หายขาดจริง ๆ เพื่อจะได้แก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดได้ และก็ขอให้กฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดนี่ 1 เม็ด ก็ขอให้ผิดเถอะครับ อย่าปล่อยให้ไปถึง 5 เม็ด หรือ 10 เม็ดเลย

ที่ผ่านมาประเทศไทยแย่มาแต่เรื่องยาเสพติดมากมายพอสมควรแล้วนะครับ
สุดท้ายนี้งบประมาณทั้งหมดที่มีอยู่ ผมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ขอสนับสนุน
ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กราบขอบพระคุณครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *