#หัวอกแม่ได้รับข่าวดีแรงงานไทยในอิสราเอลฮามาสปล่อยตัวลูกชาย หลังถูกจับเป็นตัวประกันนานถึง 49 วัน เหมือนตายแล้วเกิดใ

นครพนม-#หัวอกแม่ได้รับข่าวดีแรงงานไทยในอิสราเอลฮามาสปล่อยตัวลูกชาย หลังถูกจับเป็นตัวประกันนานถึง 49 วัน เหมือนตายแล้วเกิดใ หม่ เตรียมเดินสายแก้บน
*****
สืบเนื่อง อิสราเอล และ กลุ่มติดอาวุธฮามาส ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเขตปาเลสไตน์ บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว เพื่อมนุษยธรรม โดยมีการแลกเปลี่ยนตัวประกัน ซึ่งก่อนหน้านี้วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ฮามาสได้ปล่อยตัวประกันล็อตแรก จำนวน 24 คน ในจำนวนนั้นมีแรงงานไทย 10 คน จากทั้งหมด 26 คน ที่ถูกจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 66 ตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
ล่าสุด วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความ ผ่านแอปพลิเคชั่น X ว่า “ดีใจด้วยครับ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 เวลา 23:50 น. (เวลาท้องถิ่น) ตัวประกันไทยได้รับการปล่อยตัวเพิ่มอีก 4 คน จากการตรวจร่างกายในเบื้องต้น ทุกคนพูดคุยและเดินได้ปกติ ทุกคนดีใจที่ได้รับการปล่อยตัว โดยรวมสุขภาพจิตยังดีอยู่ พูดคุยได้ปกติ ต้องการอาบน้ำและติดต่อกลับหาญาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปที่ รพ.Shmir Medical Center (Assaf Harofe) ขอขอบคุณกระทรวงต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคงครับ”
โดยหนึ่งในสี่จำนวนคนงานไทยที่ถูกปล่อยตัวในล็อต 2 นี้ มีแรงงานชาวจังหวัดนครพนมรวมอยู่ด้วย 1 คน คือ นายนัฐพร อ่อนแก้ว หรือตั๊ม อายุ 26 ปี เป็นชาวบ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับพ่อแม่ของนายตั๊ม คือ นายธวัชชัย อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี และ นางทองคูณ อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี โดยเฉพาะนางทองคูณได้แสดงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับเล่าว่า เช้าวันนี้ทางครอบครัว ได้รับโทรศัพท์จากสถานเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล ว่า นายนัฐพรหรือตั๊มลูกชายได้รับการปล่อยตัวกลับมาแล้ว ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ โดยสุขภาพแข็งแรงดี และรอการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน
นางทองคูณเล่าด้วยความปิติต่อว่า ตั้งแต่ลูกชายถูกจับไปเป็นตัวประกัน ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา คนในครอบครัวกินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะตนนอนร้องไห้จนน้ำตาเปียกหมอน เป็นห่วงชะตากรรมของลูก ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร รวมทั้งไปบะกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อย 3 แห่ง (“บะ” เป็นภาษาอีสานแปลว่าบนบาน) เมื่อทราบว่าลูกชายถูกปล่อยตัวออกมา ตนร้องลั่นด้วยความดีใจ และได้เห็นภาพลูกอยู่ในความดูแลของทางการอิสราเอล รู้สึกมีความสุขที่สุด แม้จะซูบผอมไปบ้างก็ไม่เป็นไร โดยยังไม่ได้คุยกับลูกชาย หากได่ยินเสียงเขาตนคงจะร้องไห้ออกมาแน่นอน เพราะคิดถึงลูกชายมาก หลังจากนี้เมื่อลูกกลับถึงบ้าน จะไปแก้บะและให้บวช ถือว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
จากนั้นนางทองคูณได้ไปเก็บดอกไม้ข้างบ้าน เพื่อมาบอกกล่าวกับหลวงปู่อวน ปคุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทิยาวาส ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เกจิอาจารย์ชื่อดังสายธรรมยุต ลูกศิษย์ของหลวงปู่กินรี จันทิโย โดยจะแก้บะตามคำที่ตนเองกล่าวไว้ทุกอย่าง ในขณะที่นายธวัชชัยผู้เป็นพ่อ ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานจนต้องตัดนิ้วเท้า กล่าวเพียงสั้นๆว่าทราบข่าวลูกถูกปล่อยตัว ก็ดีใจไม่ต่างไปจากคนเป็นแม่ ตอนนี้อยากเห็นหน้าลูกมากที่สุด
ทั้งนี้ นายนัฐพร อ่อนแก้ว หรือตั๊ม ถือเป็นคนไทยที่ไปขายแรงงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอล เขตฉนวนกาซา ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนับถึงวันที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพ รวมระยะเวลาที่ไปไปเป็นตัวประกันฝั่งปาเลสไตน์ จำนวน 49 วัน
โดย สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม ได้รับแจ้งว่ามีคนงานที่ขาดการติดต่อ รวมทั้งถูกจับไปเป็นตัวประกันรวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายนัฐพร อ่อนแก้ว 2.นายเฉลิมชัย แสงแก้ว 3.นายพัฒนายุทธ ต้อนโสกี 4.นายบุดดี แสงบุญ 5.นายอุทัย แสงนวล
ต่อมา วันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกัน จำนวน 24 คน โดยมีคนไทยรวมอยู่ด้วย 10 คน เป็นชาว จ.นครพนม 2 คน คือ 1.นายบุดดี แสงบุญ และ 2.นายอุทัย แสงนวล กระทั่งล่าสุดวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้ปล่อยตัวเพิ่มอีก 20 คน มีคนไทยอยู่ด้วย 4 คน เป็นชาว จ.นครพนม 1 คน ชื่อ นายนัฐพร อ่อนแก้ว จึงเหลือแรงงานที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.นครพนม ที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวอีก 2 คน คือ 1.นายพัฒนายุทธ ต้อนโสกี และ 2.นายเฉลิมชัย แสงแก้ว คาดทั้งคู่จะได้รับอิสรภาพในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้ส่งมอบตัวประกันทั้ง 2 ล็อต ผ่านสภากาชาดสากลมาทางช่องทางประเทศอียิปต์ เข้ามาในดินแดนของอิสราเอล ในขณะที่อิสราเอลได้ปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ จำนวน 39 คน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนภายใต้ข้อตกลงพักการสู้รบชั่วคราว 4 วัน ระหว่างอิสราเอลและฮามาส
โดยตัวประกันทั้งหมด ได้เดินทางออกจากฉนวนกาซา ผ่านทางอียิปต์ก่อนส่งมอบให้กับอิสราเอล ที่จุดนัดพบในเขตคิบบุตซ์ ทางตอนใต้ของอิสราเอล และเข้ารับการตรวจร่างกายเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปพำนักชั่วคราวที่โรงพยาบาล
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)