ศรีสะเกษ คืบหน้า น.ร.โดดตึก ผอ.ร.ร.สั่งตั้ง กก.สอบสวนแล้ว เผยเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำชับคณะครูให้ดูแล น.ร.ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดกว่าเดิม ขณะที่พ่อแม่เฝ้าลูกหน้าห้องไอซียูพ่อเผยยังคาใจเหตุใดทาง ร.ร.จึงไม่แจ้งเหตุให้ทราบ ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 2566 ได้เกิดเหตุ น.ร.โดดอาคารเรียน ที่อาคาร 5 ชั้น 4 ร.ร.ระดับมัธยมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งเขต อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ซึ่ง ร.ต.ท.หญิง กมลลักษณ์ สัมดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า เด็ก น.ร.ที่กระโดดตึกลงมา ถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ บริเวณที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดอยู่บริเวณข้างตึกเรียนอาคาร 5 ร.ต.ท.หญิงกมลลักษณ์ จึงได้ติดตามไปตรวจสอบที่ รพ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบอาการผู้บาดเจ็บเบื้องต้นพบว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกาย ใบหน้าบวมช้ำมีเลือดไหลออกมา ขาและแขนหัก สะโพกแตก อาการสาหัสมาก แพทย์ได้ทำการเอ๊กซเรย์ และจากนั้น ได้นำผู้บาดเจ็บเข้าไปทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เด็ก น.ร.ที่กระโดดลงมาจากอาคารเรียนชั้น 4 ชื่อ นาย ป. (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี น.ร.ชั้นปีที่ 6 /16 ซึ่งเป็น น.ร.ของ ร.ร.แห่งนี้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ร.ร.ชื่อดัง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ บริเวณอาคารเรียนตึก 5 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุพบว่า ร.ร.ยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนบริเวณรอยกองเลือดของเด็ก น.ร.ที่กระโดดลงมานั้น ได้มีการนำเอาน้ำมาล้างกองเลือดออกไปแล้ว เหลือเพียงรอยเลือดจาง ๆ ซึ่งจากการสอบถาม น.ร.คนหนึ่งได้เปิดเผยว่า จุดที่ นาย ป.ปีนขึ้นไปบนหลังคานั้น จะอยู่ที่บริเวณชั้น 4 ของอาคาร โดย น.ร.ได้นำผู้สื่อข่าวขึ้นไปดูบริเวณชั้น 4 ของอาคาร พบว่า มีบันไดเหล็กติดอยู่กับกันสาดของอาคาร เป็นบันไดสำหรับปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารเรียนเพื่อซ่อมแซมหลังคาหากมีการชำรุด ขณะนี้มีการนำเอาลวดหนามมามัดติดกับบริเวณที่จะปีนออกไปขี้นบันไดเหล็ก ส่วนบริเวณใกล้กับบันไดเหล็กมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ ซึ่งบริเวณหลังคาจะมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เอาไว้ และคาดว่า นาย ป.อาจจะปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารเรียนแล้วกระโดดลงมาจากบริเวณหลังคาของอาคารเรียนแห่งนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อไปถึงพบว่า นาย ป. อายุ 16 ปี น.ร.ที่กระโดดตึกยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ซึ่งเป็นห้องผู้ป่วยหนัก โดยมีพ่อและแม่รวมทั้งญาติพี่น้องพากันมาเฝ้าดูแลด้วยความห่วงใย ซึ่งนายจิตตนาถ สิงโต ผอ.ร.ร.ที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย รอง ผอ.ร.ร.ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนาย ป.ด้วยความห่วงใย ซึ่งขณะนี้แพทย์พยาบาล รพ.ศรีสะเกษ กำลังให้การรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บของนาย ป.อย่างเต็มที่ ตามร่างกายมีการนำเอาผ้าพันแผลมาพันตามบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บและบริเวณใบหน้า โดยคุณแม่ซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ ได้เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
นายจิตตนาถ สิงโต ผอ.ร.ร.ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนในนามของ ร.ร.ขอแสดงความห่วงใยนาย ป.ที่ได้เกิดเหตุนี้ขึ้นมาอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลย ซึ่งเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนจึงได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี รอง ผอ.ร.ร.เป็นประธานคณะกรรมการ โดยให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบโดยด่วนที่สุด สำหรับอาการบาดเจ็บของ นาย ป.นั้น หลังผ่าตัดแล้วได้เข้าตึก GICU(อ.9 เฟส 2 ชั้น 3) มีอาการเลือดออกในสมอง ม้ามแตก ปอดซ้ำ ไตได้รับบาดเจ็บ กระดูกเชิงกรานและกระดูกต้นขาหัก ซึ่งแพทย์พยาบาล รพ.ศรีสะเกษ ได้ทำการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ทำให้อาการดีขึ้น ส่วนการรักษาความปลอดภัยให้กับ น.ร.ใน ร.ร.นั้น ตนได้ดำเนินการตามมาตรการที่ สพฐ.กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาตนได้กำชับให้คณะครูทุกคน ครูเวร และครูที่ปรึกษาให้ดูแลความปลอดภัยของ น.ร.ทุกคนใน น.ร.ให้เข้มงวดมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาอีกต่อไป
นายสุธี พ่อของ นาย ป.ที่กระโดดตึก กล่าวว่า ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะไม่คาดคิดว่า ลูกชายของตนจะกระโดดตึกลงมา และตนไม่เชื่อว่าลูกชายของตนจะขึ้นไปกระโดดตึกเพราะว่า ลูกชายของตนเป็นเด็กเรียบร้อยไม่ใช่เด็กดื้อรั้น ตนจะไปส่งลูกที่ ร.ร.ทุกเช้า และไปรับกลับช่วงเลิกเรียนทุกวัน ตนยังคาใจที่เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา เพราะเหตุใดทาง ร.ร.ขึ้นมาทาง ร.ร.ทำไมไม่รีบแจ้งเหตุเรื่องนี้ให้ตนทราบ ตนได้ทราบเรื่องนี้จากเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษด้วยกัน ตนจึงขอฝากเรื่องนี้ไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างละเอียดชัดเจนด้วย เพราะตนเชื่อว่า ลูกชายของตนจะไม่กระโดดตึกลงมาเองอย่างแน่นอน ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกฝ่ายด้วย//////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ
