# นายกรัฐมนตรี ยิ้มสู้เพื่อประชาชน ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ตรวจเยี่ยมโรงผลิตน้ำประปาเทศบาลนครพิษณุโลก รับฟังปัญหาน้ำประปา ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

#นายกรัฐมนตรี ยิ้มสู้เพื่อประชาชน ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ตรวจเยี่ยมโรงผลิตน้ำประปาเทศบาลนครพิษณุโลก รับฟังปัญหาน้ำประปา ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พลตรี วิทยา แก้วพรม รองแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติภารกิจ

ต่อมา เวลา 10.30 น. ณ เทศบาลนครพิษณุโลก ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมโรงผลิตน้ำประปา เทศบาลนครพิษณุโลก ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพูดคุยปัญหาน้ำประปา โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมการตรวจเยี่ยม นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขระบบผลิต ระบบจ่ายน้ำประปาจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก กรมชลประทาน และประชาชน สำหรับจังหวัดพิษณุโลกมีระบบท่อส่งน้ำมีอายุการใช้งานกว่า 70 ปี เกิดการแตกรั่วบ่อยครั้งเป็นเหตุให้สูญเสียน้ำอยู่ที่ 50% ทำให้น้ำประปามีปริมาณไม่เพียงพอ เกิดปัญหาน้ำไหลอ่อนและน้ำขุ่นแดง อีกทั้งมีถังสำรองน้ำในปริมาณจำกัด ทำให้ไม่สามารถให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชนได้เต็มประสิทธิภาพ จังหวัดพิษณุโลก จึงต้องการที่จะปรับปรุงระบบเส้นท่อให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกับเพิ่มถังสำรองน้ำและก่อสร้างเขื่อนท้ายเมืองเพื่อกักเก็บน้ำให้สามารถรองรับการใช้บริการของประชาชนได้เพียงพอตลอดเวลาและยังเป็นการเพิ่มระบบนิเวศให้กับจังหวัดพิษณุโลกอีกด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่าการบริหารจัดการน้ำมีหลายส่วน ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภคน้ำ จังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดแรกที่รัฐบาลลงพื้นที่และประสบปัญหานี้ในเรื่องน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค โดยวันนี้รัฐบาลจะรับเรื่องเพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องแหล่งกักเก็บน้ำ ท่อน้ำประปาที่สร้างมาเป็นเวลานานจนประสบปัญหารั่ว ซึม และสูญเสียน้ำระหว่างทางของการส่ง ซึ่งเมืองพิษณุโลก 80 ปี ที่ผ่านมา พัฒนาจากเมืองรองจนเป็นเมืองหลักแห่งการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นเรื่องของการอุปโภคบริโภคน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ การพัฒนาของเมืองก็จะไม่สามารถเดินหน้าได้เต็มประสิทธิภาพ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และจะทำการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจปัญหาและหาทางแก้ไขในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว นอกจากนั้นเรื่องของการสร้างเขื่อนท้ายเมือง ขอให้มีการสอบถามประชาชนในพื้นที่ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และศึกษาข้อดี ข้อเสียของเขื่อน หากศึกษาแล้วเห็นว่าดี รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดย นายกรัฐมนตรี ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม และเสนอโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยเร็ว

“นายกรัฐมนตรี เพิ่งทราบปัญหานี้ ตอนที่เคยมาช่วงเลือกตั้ง ถ้าทราบจะเตรียมทางแก้ปัญหาไว้ แต่ถึงอย่างไรช้าดีกว่าไม่ทำ และต้องขอโทษด้วย อย่างไรก็ตาม สส. ในพื้นที่ก็ให้ความเป็นห่วงประชาชน จังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดใหญ่ เมื่อมีปัญหาก็ต้องขอโทษ ในนามรัฐบาลจะนำมาพัฒนาและทำให้ดีในระยะสั้นก่อน และจะแก้ไขระยะยาวกันต่อไป ไม่เช่นนั้นเมืองรองที่มีคุณค่าอย่าง จังหวัดพิษณุโลก จะไม่มีโอกาสเติบโตตามแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจของชาติได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่นายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่ทราบมาก่อน ถือเป็นความผิดของตน ผู้สมัคร สส. ในพื้นที่ได้บอกตนมาตลอด แต่เมื่อไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร เลยไม่ได้นำเรียนต่อวันนี้จึงต้องขอโทษ ขณะที่ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เจตนาของเทศบาลนครพิษณุโลก ต้องการจำหน่ายน้ำประปาเอง หรือโอนมอบไปให้การประปาส่วนภูมิภาค โดยตนมองว่าเมื่อจะทำแล้ว อยากให้ สส.ในพื้นที่ทำประชาคมดูว่า จะให้ไปอยู่กับการประปาส่วนภูมิภาคหรือจะทำเอง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร อยากให้ สส. ประสานกับทางเทศบาลนครพิษณุโลก ทำให้เป็นประปาดื่มได้ด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำ ณ บึงเครง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหา ข้อจำกัด และวิธีการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวลา 10.10 น. ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เข้าสักการะพระพุทธชินราช พร้อมกับกราบนมัสการพระสุธรรมมุนี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และพระมหาธนศักดิ์ จินฺตกวี รองเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก เลขานุการวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *