กฟผ. นำคณะสื่อมวลชน ศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าไฟฟ้าใต้ดินลำตะคองและกังหันลม แหล่งพลังงานสะอาดของเมืองโคราช
น.ส.พรรณทิพย์ อัชฌาสัย หัวหน้ากองประสานสื่อสารสายงานหลัก พร้อมด้วย น.ส.ณิชชนันทน์ สวัสดิ์พานิช หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. นำคณะสื่อมวลชน โดยมี นางนันทนา คล้ายนุ้ย นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนนครสวรรค์ และนายวิวรรธน์ แพ่งสุภา ประธานชมรมชมรมสื่อออนไลน์ภาคเหนือ 17 จังหวัด ศึกษาดูงานการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาและกังหันลมลำตะคอง ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 66
โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับที่อยู่ใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำตอนล่าง คือ เขื่อนลำตะคอง ของกรมชลประทาน ไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยงในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อยหรือช่วงกลางคืนถึงเช้า และเมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงในช่วงกลางวันถึงค่ำ จะปล่อยน้ำลงมาเพื่อผลิตไฟฟ้าและปล่อยลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองเหมือนเดิม
อ่างพักน้ำตอนบนเขายายเที่ยงสร้างแบบหินถม ดาดด้วยยางมะตอย ปูทับด้วยผ้ายางสังเคราะห์ชนิดพิเศษ (HDPE) เพื่อป้องกันน้ำซึมออกจากอ่างเก็บน้ำ เก็บกักน้ำได้ 10.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ตัวอาคารโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ถูกสร้างไว้ใต้ระดับผิวดินลึกกว่า 350 เมตร มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,000 เมกะวัตต์ โดยติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จำนวน 4 เครื่อง ใช้กังหันน้ำแบบสูบกลับชนิด Vertical Shaft Francis Type ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและนำไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเมื่อปี พ.ศ. 2547 นับเป็นโรงไฟฟ้าที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มกำลังผลิตในช่วงเวลาที่ความต้องการไฟฟ้าสูง ช่วยเพิ่มความมั่นคงในระบบไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้
สำหรับกังหันลมลำตะคอง ขนาด 24 เมกะวัตต์ ใช้พลังงานลมในการผลิตกระแสไฟฟ้า ตั้งอยู่ที่อ่างเก็บน้ำตอนบนโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา บนเขายายเที่ยง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นกังหันลมที่มีความสูงของเสาไม่ต่ำกว่า 90 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของใบพัดไม่ต่ำกว่า 75 เมตร ขนาดกำลังผลิตต้นละ 2 เมกะวัตต์ จำนวน 12 ต้น ที่ทอดยาวตลอด 8 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการสร้างราว 145 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านพลังงานลมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละประมาณ 50.4 ล้านหน่วย ซึ่งสามารถทดแทนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณ 9.1 ล้านลิตร/ปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการผลิตไฟฟ้า ได้ประมาณ 22,000 ตัน/ปี นอกจากนี้ กังหันลมลำตะคองยังมีความพิเศษเพราะไม่ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไฟฟ้าเท่านั้น ยังทำงานร่วมกับเซลล์เชื้อเพลิง หรือเรียกว่า Wind Hydrogen Hybrid ซึ่งเป็น ‘แห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชีย’ ที่ใช้ระบบนี้ในการกักเก็บและจ่ายไฟฟ้า
จุดเด่นของการจับคู่โครงการไฮบริดลมกับเซลล์เชื้อเพลิงลำตะคอง คือ การกักเก็บพลังงานลมซึ่งมักจะพัดมากในช่วงเวลากลางคืนในรูปของไฮโดรเจน ก่อนจะนำมาผลิตไฟฟ้าโดยผ่านเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อจ่ายไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้า หรือในช่วงเวลากลางวัน โดยการนำกังหันลมมาทำงานร่วมกับเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานด้วย Wind Hydrogen Hybrid ที่ลำตะคองนั้น เป็นโครงการวิจัยของ กฟผ. เพื่อศึกษาข้อดี ข้อเสีย และประสิทธิภาพของการทำงานของระบบกักเก็บพลังงาน และนำพลังงานมาใช้ที่ศูนย์การเรียนรู้ลำตะคอง ทำให้อาคารศูนย์การเรียนรู้ลำตะคองใช้พลังงานภายในอาคารจากพลังงานหมุนเวียน 100% หรือ Zero Energy Building อย่างมีเสถียรภาพ ด้วยกังหันลมยักษ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม บวกกับวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงาม ลมเย็น ๆ และอากาศบริสุทธิ์ จึงมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินมาไปเที่ยวกังหันลมเขายายเที่ยงอยู่ตลอดเวลา