สุโขทัย สมศักดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่น้ำท่วม ในอำเภอเมือง
ในช่วงบ่ายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบรถไฟตกรางที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ แล้ว นาสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังตัวเมืองสุโขทัยบริเวณจุดวัดน้ำ Y 4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย โดยขึ้นไปวัดความกว้างของพนังกั้นน้ำด้วยตนเอง พบว่ามีความหนาประมาณ 20 เซนติเมตร หากรับน้ำปริมาณมาต่อเนื่องเกรงจะเกิดอันตราย ควรที่จะมีการตรวจสอบถึงความมั่นคงและความปลอดภัยของพนังกั้นน้ำ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังบริเวณสะพานพระร่วง ที่ระดับน้ำจากแม่น้ำยมมีความสูงจนแตะขอบสะพาน และได้สอบถามถึงความแข็งแรงของคอสะพานพระร่วง และสะพานบางแก้ว เนื่องจากมีจุดที่คอสะพานชำรุดเกรงว่าประชาชนที่สัญจรไปมาจะได้รับอันตรายในเวลาต่อมาหลังน้ำลดได้ จากนั้นได้เดินทางให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่บ้านวังหิน ม.1 ต.ปากแคว ที่น้ำยมกัดเซาะพนังกั้นน้ำจนพัง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ม.1 – ม.7 กว่า 300 หลังคาเรือน อีกทั้งได้สั่งการหาแนวทางในการทำพนังกั้นน้ำที่ถาวรในจุดนี้ ระยะทางประมาณ 1700 เมตร ซึ่งในขณะนี้แขวงการทางจังหวัดสุโขทัยได้นำแบริเออร์คอนกรีตมากั้นไว้ในบางช่วง เพื่อชะลอความแรงของน้ำ
จากนั้นนาสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการรับมือน้ำท่วม โดยได้พูดคุยและทำความเข้าใจว่าลุ่มแม่น้ำยมเป็นแม่น้ำแห่งเดียวที่ไม่มีเขื่อนในการบริหารน้ำ และได้รับความเสียหายตั้งแต่ปี 2554 ต่อเนื่องถึงปีนี้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 6,470 ล้านบาท อีกทั้งตั้งแต่จังหวัดแพร่ถึงจังหวัดนครสวรรค์ ในภาคเหนือ ลงมาถึงกรุงเทพมหานคร ก็ได้รับผลกระทบต่อเนื่องทุกปี ซึ่งจะเร่งรัดการดำเนินการโครงการใหญ่ที่เกี่ยวข้อง เช่นการออกแบบผันน้ำแม่น้ำยมฝั่งขวา จากคลองน้ำโจน ไปลงทุ่งทะเลหลวง ไปยัง ต.ยางซ้าย ต.ปากพระ ของอำเภอเมือง ซึ่งมีการออกแบบไว้เบื้องต้นแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำในจังหวัดสุโขทัย ล่าสุด มวลน้ำยมได้หลากเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างของประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ตั้งแต่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองสุโขทัย และจุดวิกฤติยังคงอยู่ที่ ต.ปากแคว ของ อ.เมือง และ บ้านซ่าน ต.ราวต้นจันทน์ของ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง และยังคงต้องระวังมวลน้ำที่จะมาเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้อีก 1300 ลบ.ม./วินาที จาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่จะถึงสุโขทัยในวันพรุ่งนี้
พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย