#ชมคลิป พ่อเลี้ยงร้องสื่อลูกติดเมียถูกข่มขืนทั้งผู้ใหญ่และเยาวชนรวม 7 คนรวด

พ่อเลี้ยงร้องสื่อลูกติดเมียถูกข่มขืนทั้งผู้ใหญ่และเยาวชนรวม 7 คนรวด


นายอิบรอฮีม มะแซ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 บ้านดุซงญอ ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีอาชีพจำหน่ายเสื้อมือ2 ที่ตลาดดุซงญอ เปิดเผยว่า เช้าอีกวันน้องจะไปโรงเรียน (บ้านดุซงญอ ชั้น ป. 2 ) กลับบ้านตามปกติก็ไม่ได้ถามอะไรแกนอนอยู่ พรุ่งนี้เช้าแกก็ไปโรงเรียนตามปกติ ตอนเย็นคุณครูเล่าให้ฟังว่า น้องนูรอาลีซาผิดปกติและทำไมฉี่บ่อยจัง น้องนูรอาลีซาเล่าให้ฟังว่าคุณครูขอดู เมื่อขอดูอย่างที่เห็นมีอวัยวะเพศแดงปวดฉี่บ่อย น้องเล่าให้ครูฟังว่าถูกกระทำอย่างโน้นอย่างโน้น บ้านอยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ตอน 4 โมงเย็นคุณครูเห็นผิดปกติน้องจะกลับมาจากโรงเรียนจะมาทานข้าวแล้วจะไปเรียนอัลกุรอาน แต่คืนนั้นแกไม่กลับมาบ้านพัก ให้แม่ไปตามแต่ไม่เจอและรู้ว่าน้องอยู่บ้าน ผอ. แล้วได้คุยกันจนทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โดย ผอ.เล่าให้ฟังว่าเกิดเหตุแบบนี้แบบนั้น ก็โทรหาผู้ใหญ่ๆก็ติดธุระรอไม่ได้ก็ส่งโรงพยาบาล หมอก็ตรวจเจออวัยวะเพศด้านในฉีกขาด แล้วก็เหยื่อพรมจรรย์ขาด หมอบอกว่าต้องส่งให้ตำรวจ แล้วไปแจ้งความโดนกระทำชำเราคือโดนข่มขืน วันนั้นแม่ไปรับส่งน้องกลับไปบ้านนอน พอแม่ปิดประตูบ้านแล้วเดินทางมาที่ร้าน ก็มีชายอายุ ประมาณ 70 ปี ที่อยู่หน้าบ้านมาเรียก เขาเข้าไปในบ้านลูบไล้ให้จับอวัยวะเพศแล้วก็เอามือสอดเข้าไปด้านใน แล้วเอาของแกสอดใส่เข้าไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้ อันนี้คือเด็กเล่าให้ฟังหลังจากเกิดเหตุในคืนนั้น น้องได้ชี้ที่เกิดเหตุว่าเขาทำแบบนู้นแบบนี้ทุกอย่าง แล้วตนถามว่าทำไมลูกไม่ร้องแกก็ตอบว่าร้องแล้วแต่ไม่ดังมาก เพราะผมเคยสั่งแกทุกวันอย่างดังกลางคืนเราอยู่ข้างๆบ้านเขาเดี๋ยวเขาจะรำคาญ เขาก็บอกตามนั้นเลยเขาทำเสร็จก็ออกจากบ้านปิดประตู
“ คนที่ทำอายุ 70 ปี น้องเล่าให้ฟังว่าผู้ชายคนนี้ ก่อนหน้านี้สักวันสองวัน แกเคยทำมาแล้วแบบนี้แต่ผมว่าทำไมไม่บอกแกกลัวผมกับแม่ด่า เด็กมันกลัวผมมากคือไม่ยอมบอกอะไรเลย แต่พอเกิดเหตุตรงนั้นแกเล่าให้ฟังหมดเลย ตั้งแต่ครั้งแรกจนวันนี้น้องบอกว่าน้องกลับจากเรียนอัลกุรอ่าน มันจะมีซอยเข้าด้านหลังมัสยิดแล้วมันจะมีส้อมของผู้ชายอยู่ คือมีผู้ชายคนนั้นเดินผ่านเรียกน้องบอกจะให้ตัง 10 บาท พอน้องเงินแล้วก็เอาแล้วเขาจะจับหอมแก้มน้องเขาไม่ยอมจึงสะบัดมือ ผมก็ถามว่าทำไมไม่เรียกเพื่อนๆ เพื่อนๆไม่กล้ามาช่วยได้แต่แอบดู แล้วทำไมไม่ร้องเขาบอกเขากลัว นี่คือก่อนเกิดเหตุคนร้ายจะเข้าไปทำอนาจารในบ้าน ทำแบบนี้ตรงนั้นประมาณ 2 ครั้งบริเวณหลังห้องน้ำ คือจับนั่งลูบไล้โชว์อวัยวะเพศให้น้องจับ แต่น้องเขาไม่จับเหมือนแกจะโกธร เขาเลยจับให้น้องหันหลังเอาอวัยวะเพศถูแล้วก็สอดใส่ไปเลย หลังจากนั้นประมาณ 2 ถึง 3 ทุ่มน้องจะกลับมาจากเรียนอัลกุรอ่านก็โดนตรงนั้นอีกแกรอดักอยู่ ทำเช่นเดิมแบบนั้นน้องไม่รู้จะทำอย่างไร เด็กบอกบอกว่าแกพยายามผลัดถีบต่อยจนล้มคนแกล้ม แกหัวเราะลุกขึ้นมาน้องพยายามวิ่งหนีแกคว้าคอมาทำอีก ยกขึ้นอุ้มแล้วเอามาถูๆใส่อีก เมื่อเสร็จแล้วเขาปล่อยให้น้องเดินกลับบ้าน” นายอิบรอฮีม กล่าว
นอกจากนี้ นายอิบรอฮีม กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เหมือนเราจะออกจากบ้านไปทำงาน เราเห็นคนทำร้ายลูกเรานั่งลอยหน้าลอยตา ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยคือเขาสบายใจมาก แต่ทำไมทางเราเครียดคือกฏหมายทำอะไรไม่ได้เลยหรือ หรือว่ากระบวนการยังไม่ถึงรายละเอียดตรงนั้น ทางตำรวจบอกผมว่ากำลังดำเนินการ คือหลักฐานเด็กเห็นอยู่ชัดๆ ถึงแม้หลักฐานอื่นยังไม่มี ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าผู้ก่อเหตุไปรับทราบข้อกล่าวหา ได้มีการติดต่อไกล่เกลี่ยหรือขอเคลียร์กันบ้างมั๊ย ไกล่เกลี่ยไม่มีทั้งพ่อแม่และน้องๆทั้ง 6 คน คนที่ว่าทำร้ายลูกก็ไม่มีๆใครที่มาถามสักคน มีเด็กที่เขาไม่รู้ภาษาเขามาขอโทษมาถามน้องเขาเป็นอะไรบ้าง ผมก็เลยถามทำไมทำน้องแบบโน้นแบบนี้ เด็กๆเขาบอกผมว่าเป็นการเล่นหยอกล้อกันเด็กๆเขาก็โยนกันไปโยนกันมาให้การยอมรับ ว่าแกทำหลายรอบคนโน้นทำ 2 รอบ คนนี้ทำ 3 รอบ ผมข้องใจตรงที่ว่าพ่อแม่ไม่มาถามอะไรเลย เราจะทำอย่างไรดีน่ะเรามาขอโทษอะไรหรืออย่างไรไม่มีเลยสักคนเดียว
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปดูบริเวณจุดเกิดเหตุที่เด็ก 6 คน อายุระหว่าง 11 ถึง 14 ปี ที่ร่วมกันกระทำอนาจาร ด.ญ.นูรอาลีซา พบว่า จุดดังกล่าวเป็นเครื่องเล่นม้าหมุน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือห่าจากอาคารบาลาเซาะห์ ประมาณ 15 เมตร และตรงอยู่ด้านหลังของมัสยิด มีบ้านของชาวบ้านปลูกสร้างบริเวณดังกล่าวจำนวนหลายหลัง ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ค่อนข้างโล่งมีหญ้าขึ้นปกคลุมเพียงเล็กน้อย ประชาชนที่ใช้ยานพาหนะสัญจรไปมาพบเห็นได้สะดวก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.จะแนะ เพื่อขอทราบรายละเอียดข้อมูลที่เกิดขึ้น ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการทางคดีดังกล่าวคืบหน้าไปถึงไหน โดย พ.ต.อ.นราวี ผกก.สภ.จะแนะ เดินทางไปราชการต่างพื้นที่และได้แนะนำให้ไปพบกับ รอง ผกก.ส.ส.สภ.จะแนะ เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอสงวนชื่อและนายสกุล รวมทั้งการไม่อนุญาตให้บันทึกภาพในทุกกรณี
โดยเปิดเผยเพียงแต่รายละเอียดว่า เวลาประมาณ 20:00 น ถึง 21:00 น ของวันที่ 10 ก.ย. 66 เด็กเลิกเรียนศาสนาเดินมาจากมัสยิด เสร็จจากเรียนอัลกุรอานออกมาก็มาเจอกับกลุ่มเด็กผู้ชายกำลังเล่นม้าหมุนอยู่ใกล้มัสยิด แล้วก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12 ถึง 13 ขวบ เข้ามาแล้วฉุดแขนเข้าไปในพงหญ้าในสนามเด็กเล่น แล้วจับคว่ำหน้าลง แล้วข่มขืนเสร็จแล้วก็มีอีกเด็กคนหนึ่งมาข่มขืนต่อ ซึ่งเป็นเด็กในกลุ่มเดียวกันทั้ง 6 คน ร่วมทำการข่มขืนทั้งหมด ต่อมาประมาณ 21:00 น แม่ของเด็กขับรถมารับเด็กผู้หญิงที่เกิดเหตุ แล้วพ่อกับแม่มารับไปส่งที่บ้าน ไปขายของต่อพ่อกับแม่ของเด็กทำอาชีพขายเสื้อผ้ามือสอง พอเด็กกลับมาถึงบ้านก็ได้มาเจอกับนายอิสมาแอ ฮะยีกาบู อายุ 69 ปี ได้บอกเด็กว่าให้ไปเอาเงิน 10 บาทเด็กก็ตามไป นายอิสมาแอได้พูดกับเด็กว่าขอกอดขอจูบก่อนแล้วจะให้เงิน 10 บาท แต่เด็กไม่ยอมหลังจากนั้น นายอิสมาแอ ก็เลยได้กระทำการข่มขืนเด็กข้างถนน ทางมันเปลี่ยวและมืด แล้วมีรถเก๋งจอดบังอยู่ หลังจากนั้นเด็กไม่กล้าบอกพ่อแม่ให้ทราบแต่ไปบอกกับเพื่อน จนกระทั่งเพื่อนของเด็กไปฟ้องคุณครู คุณครูก็เลยไปแจ้งผู้ปกครองทราบ แล้วผู้ปกครองเลยพาเด็กไปแจ้งความ เหตุเกิดวันที่ 10 ก.ย. 66 แต่มาแจ้งความวันที่ 11 ก.ย.66 ช่วงเวลา 21:00 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเด็กไปตรวจที่โรงพยาบาลจะแนะ ทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดและอวัยวะเพศบวม เบื้องต้น และรอผลการตรวจของสารคัดหลั่งกับทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์ ประมาณ 30 วัน ส่วนตอนนี้ได้พาเด็ก 6 คน ไปซักถามกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 66 แล้ว ซึ่งทางสหวิชาชีพจะซักถามอย่างละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
โดยเบื้องต้นเด็กทั้ง 6 คน ให้การตรงกันว่าไม่ได้มีการกระทำอนาจารเป็นเพียงการหยอกล้อกันเล่น ในส่วนของนายอิสมาแอ เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาให้ปากคำแล้วในเบื้องต้น โดยให้การว่า เป็นคนชราแล้วไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำอนาจารเด็ก โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และกักขังหน่วงเหนี่ยวพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร แต่ไม่ได้ควบคุมตัวเนื่องจากนายอิสมาแอ มาตามหมายเรียกและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีพฤติกรรมหลบหนีหรือยุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน

 

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พบว่า สิ่งหนึ่งที่หายไปจากคำบอกเล่าของนายอิบรอฮีม พ่อเลี้ยง คือ ในส่วนที่บอกเล่าว่าชายอายุ ประมาณ 70 ปี ได้เข้าไปกระทำชำเรา ด.ญ.นูรอาลีซา ในบ้านพัก ไม่มีในสำนวณ จึงเป็นที่มาที่ไปที่ทางอัยการได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมาทำสำนวนใหม่อีกครั้ง โดยได้เรียกทางบิดาและมารดาของผู้เสียหายมาให้ปากคำเป็นการเพิ่มเติม
ส่วนกรณี ด.ญ.นูรอาลีซา นั้น หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นราธิวาส ได้รับตัวไปดูแลเป็นการชั่วคราว โดยนายอิบรอฮีม พ่อเลี้ยงได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อขอทราบความเป็นอยู่ของ ด.ญ.นูรอาลีซา ด้วยความเป็นห่วง และโล่งอกเมื่อทราบว่า ด.ญ.นูรอาลีซาเริ่มร่าเริงและยังไม่อยากที่จะกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้าน เนื่องจากยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวนี้ทราบจากแหล่งข่าวว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จะเดินทางมาติดตามข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
แต่ถึงอย่างไรก็ตามจากการสอบถามนายอิบรอฮีม พ่อเลี้ยง ทราบว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าวได้พยายามวิ่งเคลียร์กับน้าของ ด.ญ.นูรอาลีซา หรือ น้องของแม่ เพื่อพยายามที่จะเคลียร์ในคดีดังกล่าว แต่มารดาของ ด.ญ.นูรอาลีซา คือ นางฟาตีเมาะ ดาโอ๊ะ ไม่ยินยอมจะดำเนินคดีในถึงที่สุด ซึ่งระหว่างที่ผู้สื่อข่าวเดินทางกลับหลังจากเข้าไปทำข่าว น้าของ ด.ญ.นูรอาลีซา ได้ติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือว่า ห้ามออกข่าวดังกล่าวเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด และผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องอับอายคนไปทั้งหมู่บ้าน โดยผู้สื่อข่าวได้แจ้งไปว่า ทางบิดาและมารดาได้อนุญาตให้ออกสื่อ จนสร้างความไม่พอใจให้กับน้าของ ด.ญ.นูรอาลีซา เป็นอย่างมาก และจากที่น้าของ ด.ญ.นูรอาลีซา โทรศัพท์มายังผู้สื่อข่าวถึงเรื่องขอระงับการออกข่าวในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจึงต้องโทรศัพท์สอบถามไปยังมารดาและพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.นูรอาลีซา อีกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่า ยังต้องการให้เผยแพร่ข่าวสารที่ร้องเรียนอีกหรือไม่ โดยทางมารดาและพ่อเลี้ยงยืนยันว่าออกข่าวได้ แต่ขอสงวนชื่อและนามสกุลทุกของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มั๊ย
หมายเหตุ ข่าวนี้ทางบิดาและมารดาขอสงวนชื่อและนามสกุล เนื่องจากผู้กระทำเป็นคนมีอิทธิพลและอยู่ตรงข้ามบ้านพักซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ขอให้ทางรีไรท์เตอร์พิจารณาตามความเหมาะสม ( อาจจะมีการฟ้องร้องผู้สื่อข่าว) เพราะทางพ่อแม่ถูกกดดัน
///////////////////////////////
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *