ธรรมนัส ควง รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ พบปะรับฟังปัญหาความเดือดร้อนกลุ่มชาวประมง พื้นที่สัตหีบ

วันที่ 12 ก.พ.68 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี เขต 10 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ เพื่อพบปะรับฟังปัญหา และความเดือดร้อนของกลุ่มชาวประมงแสมสาร พร้อมมอบถุงยังชีพและเอกสารคู่มือชาวประมง ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี นายอำนาจ เจริญศรี รอง ผวจ.ชลบุรี ในนามของจังหวัดชลบุรี กล่าวให้การต้อนรับ โดยมีพี่น้องประชาชนและกลุ่มชาวประมงแสมสาร ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นจำนวนมาก

สำหรับ จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดชายทะเลที่มีความสำคัญด้านการทำการประมง มีชายฝั่งทะเลยาวถึง 160 กิโลเมตร จากข้อมูล ปี 2566 มีปริมาณสัตว์น้ำ จากเรือประมงพาณิชย์ และปริมาณจับสัตว์น้ำจากการทำประมงพื้นบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก และพบปัญหา ด้านขาดแคลนแรงงานในเรือประมงพาณิชย์ ปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบทำการประมงในเรือพื้นบ้านขนาดเล็ก ความขัดแย้งระหว่างเครื่องมือทำการประมง โดยปัญหาดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมประมง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอรัฐบาล ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2568 ซึ่งปัจจุบันมีผลบังคับใช้แล้ว โดยประกาศนี้จะขยายระยะเวลาการขอหนังสือคนประจำเรือ กรณีที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานจาก 6 เดือน เป็นทั้งปี ซึ่งจะแก้ปัญหาให้กับชาวประมงได้เป็นอย่างดี และในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบของขวัญแก่ชาวประมง เนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่ 2568 ด้วยการเพิ่มวันทำการประมงให้ผู้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์รอบปี การประมง 2567

สำหรับโครงการนำเรือออกนอกระบบฯ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเมื่อ วันที่ 21 มกราคม 2568 เพื่อพิจารณาดำเนินการ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง จากการดำเนินการดังกล่าว จะเห็นได้ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาด้านการประมงของพี่น้องชาวประมง และหาแนวทางแก้ไขเพื่อให้การทำการประมงของประเทศเกิดการพัฒนาอย่างเหมาะสมและยั่งยืน โดยอยู่ในพื้นฐานการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
และในวันนี้ มีพี่น้องชาวประมงเสนอปัญหาทำการประมงในด้านต่างๆ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับฟังปัญหาพร้อมให้กรมประมง ประสานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้พี่น้องชาวประมงต่อไป

จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันมีเรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 2,948 ลำ เรือประมงพาณิชย์ จำนวน 321 ลำ ท่าเทียบเรือประมงสำหรับขนถ่ายสัตว์น้ำ จำนวน 23 แห่ง อีกทั้งยังมีเรือประมงพาณิชย์จากจังหวัดอื่น ๆ มาขนถ่ายสัตว์น้ำผ่านท่าเทียบเรือ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ และขนส่งไปจำหน่ายตามแพปลาต่าง ๆ โดยมีปริมาณสัตว์น้ำจากเรือประมงพาณชย์ จำนวน 67,945 ตัน มูลค่า 51,007,400 บาท ปริมาณจับสัตว์น้ำจากการทำประมงพื้นบ้านจำนวน 11,651 ตัน มูลค่า 74,024,532 บาท สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ปูม้า กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย หมึกหอม หมึกกล้วย ปลาอินทรีย์ ปลาทรายแดง เป็นต้น

ทั้งนี้ ประเด็นปัญหาสำคัญที่พบในจังหวัดชลบุรี ได้แก่ปัญหาแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพกลุ่มทำการประมงพื้นบ้านขนาดเล็กแม้จะมีการออกตรวจบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังพบการร้องเรียนเรื่องปัญหาแรงงาน ต่างด้าวอยู่เป็นระยะ ซึ่งการมาลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อพบปะรับฟังปัญหา และความเดือดร้อนในครั้งนี้ จึงมุ่งหวังให้ชาวประมงได้ใช้โอกาสสร้างความเข้าใจ และเชื่อมโยงกันระหว่างภาครัฐ และภาคประชาชน ต่อไป

และจากการลงพบปะกับพี่น้องชาวประมงพื้นที่สัตหีบ สร้างความดีใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวประมง โดยได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ จากพี่น้องประชาชนชาวประมงในพื้นที่เพื่อนำไปแก้ไขให้เป็นรูปธรรม ต่อไป

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0909535645,0945565622/086-3684323