ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. เร่งสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และโดยเฉพาะการพนันออนไลน์ตามนโยบายของรัฐบาล
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. มีนโยบายโครงการ สายตรวจไซเบอร์ ตรวจสอบการ กระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ ทางออนไลน์ เพื่อลดภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.ฯ รรท.ผบก.สอท.3,พ.ต.อ.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.สอท.3, และ พ.ต.อ.พรณรงค์ สุริยชัยวงษ์ รอง ผบก.สอท.3,
ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.๓, พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ พรมไพร รอง ผกก.2 สอท.3 ,พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 เปิดปฏิบัติการ “บุกทลายร้านจำหน่ายน้ำกระท่อมให้นักศึกษาหน้ามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี” กรณีมีผู้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการเปิดหน้าร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม ซึ่งให้บริการตลอด 24 ชม. ประกอบกับข้อมูลจากสายตรวจไซเบอร์ ได้ตรวจพบการโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ว่ามีการเปิดร้านจำหน่ายน้ำต้มพืชกระท่อม โดยจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นเยาวชนและนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบร้าน 24 น. เปิดเป็นร้านจำหน่ายพืชน้ำกระท่อม เยื้องกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ต่อมาวันนี้ ๒๘ ม.ค.๖๘ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.สอท.๓ จึงให้สายลับ เข้าไปทำการล่อซื้อน้ำต้มพืชกระท่อม บรรจุขวดพลาสติก ขนาดขวดละ ๑ ลิตร จำนวน ๑ ขวด ในราคาขวดละ ๑๐๐ บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ เข้าแสดงตัวและขอตรวจสอบธนบัตรที่สายลับได้ใช้ในการล่อซื้อน้ำกระท่อม มี นายสิงหา (นามสมมุติ) แสดงตัวเป็นผู้ครอบครอง และนำตรวจค้นภายในร้านฯ พบ น้ำกระท่อมบรรจุขวด ขนาดขวดละ ๑ ลิตร รวมทั้งสิ้น ๓๑๐ ขวด ที่เตรียมไว้จำหน่ายให้กับลูกค้า อยู่ในถังน้ำแข็งภายในร้าน (ของกลาง) จำนวน 7 ถัง แยกเป็นกลิ่นผลไม้หลากหลายกลิ่น จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และทำการจับกุมตัวนายสิงหา (นามสมมุติ) นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.กก.๒ บก.สอท.๓ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้พืชกระท่อมได้มีการพิจารณาผ่านรัฐสภาและมีมติปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 แล้ว แต่ยังมีข้อควรระมัดระวังทางกฎหมายที่ควรคำนึงถึง โดยเฉพาะการนำ ใบกระท่อม ไปใช้ผสมกับสิ่งเสพติดอื่น เช่น “สี่คูณร้อย” การขายน้ำต้มกระท่อมในหอพัก, ใกล้สถานศึกษา รวมถึงจำหน่ายอาหารที่มีส่วนผสมของใบกระท่อมแก่สตรีมีครรภ์และผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้น้ำต้มพืชกระท่อม ชากระท่อม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้องขออนุญาตผลิตตาม พรบ. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อสอบถามเพิ่มเติม : พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3
*********************************************
ข้อมูลข่าวสารจาก
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทค
Share this content: