อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ มอบนโยบายบุคลากร สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ยึดหลัก“รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” เน้นกลุ่มป่าลุ่มน้ำปาย และกลุ่มป่าสาละวิน   

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ มอบนโยบายบุคลากร สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ยึดหลัก“รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” เน้นกลุ่มป่าลุ่มน้ำปาย และกลุ่มป่าสาละวิน   

วันที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยมีนายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ภาคีเครือข่าย ทหารพรานที่ 36 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 337 และ ตัวแทนอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) กลุ่มป่าลุ่มน้ำสาละวิน พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัด  และเครือข่ายราษฎรดับไฟป่า ร่วมให้การต้อนรับ ณ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมกันนี้ได้มอบเครื่องเป่าลม และเสบียงอาหารสำหรับดำรงชีพในการปฏิบัติงานไฟป่า ให้แก่เจ้าหน้าที่และราษฎรเครือข่ายดับไฟป่าในพื้นที่ 

จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมวางแผนเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ณ ห้องประชุม 2 สบอ. 16 แม่สะเรียง ประกอบด้วย 2 กลุ่มป่า ได้แก่ กลุ่มป่าที่ 1 กลุ่มป่าลุ่มน้ำปายและกลุ่มป่าที่ 4 กลุ่มป่าสาละวิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงาน โดยยึดหลักการทำงานที่ “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” และที่สำคัญคือต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อลดการเผาและจุดไฟในพื้นที่ป่า และร่วมรับฟังปัญหาในการปฏิบัติงานของสบอ.16 มร. ทั้งนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รดน้ำพรวนดินต้น “มหาพรหมราชินี (Mitrephora sirikitiae) วงศ์ Annonaceae ” ณ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภารกิจการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า มาติดตามการเตรียมความพร้อมการกำหนดจุดเฝ้าระวัง ในการป้องกันและช่วยการดับไฟ ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีศูนย์บัญชาการกลุ่มป่า 2 กลุ่ม ปีที่ผ่านแม่ฮ่องสอนมีจุดฮอตสปอตค่อนข้างสูง บวกกับ อิทธิพลหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้านส่งผลทำให้มีค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน ซึ่งในปี 2568 ได้เน้นย้ำการมีส่วนร่วม เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างเป็นระบบและตรงจุด  อีกทั้งยังเป็นการลดอัตราการเกิดไฟป่าอีกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่า หากทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติการเชิงรุก จุดฮอตสปอตจะลดลง โดยเฉพาะพื้นที่เผาไหม้ ทั้งนี้ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลาย หากพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในเรื่องการงดเผา ในกรณีช่วงที่ค่า PM 2.5 สูง มีการบริหารจัดหารพื้นที่การจัดเก็บของป่า  ร่วมถึงการจัดระเบียบการจัดการเชื้อเพลิงอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการลุกลามออกนอกพื้นที่ ซึ่ง สิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันฝุ่นละออง  คือความร่วมมือของพี่น้องประชาชนและชุมชนเป็นสำคัญ

ด้านนายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ได้รายงานในที่ประชุมถึงแผนการแก้ไขปัญหาและหมอกควันไฟป่า ประจำปี 2568 ว่า ยังคงใช้มาตรการการตรึงกำลัง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เข้าพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ดับไว พร้อมสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนทุกหลังคาเรือน และ มีการตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งหมด 438 จุด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มป่า คือ โซนเหนือ กลุ่มป่าลุ่มน้ำปาย มีการจัดตั้งวอร์รูมไฟป่า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย และ โซนใต้ กลุ่มป่าสาละวิน  จัดตั้งจัดตั้งวอร์รูมไฟป่า ณ อุทยานแห่งชาติสาละวิน  เชื่อว่าหากมีการบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง จะช่วยให้สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ดีขึ้น  พื้นที่เผาไหม้ลดลง 50% ตามเป้าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

เป้าหมายในการลดจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) และพื้นที่เผาไหม้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป้าหมาย พื้นที่ 14 กลุ่มป่า พื้นที่เผาไหม้ และจุด Hotspot ลดลง ร้อยละ 25 เป้าหมาย อส. พื้นที่เผาไหม้และจุด Hotspot ลดลง ร้อยละ 30 เป้าหมาย จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่เผาไหม้  และจุด Hotspot ลดลง ร้อยละ 50 การปฏบัติงานเฝ้าระวัง ควบคุมไฟป่า และหมอกควัน ในพื้นที่กลุ่มป่า (Cluster)แบ่งการเฝ้าระวัง2 มีกลุ่มลุ่มน้ำปาย 204  จุด กลุ่มป่าสาละวิน 234 จุด รวมทั้งสิ้น 438 จุด สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา จุดความรอน (Hotspot)   12,887 จุด พื้นที่เผาไหม้ 1,424,880.79 ไร่ โดยมีสาเหตุมาจาก การเก็บหาของป่า การเผาพื้นที่เกษตรกรรม การไหม้ลุกลามจากพื้นที่เกษตร การล่าสัตว์ การเลี้ยงปศุสัตว์ การกลั่นแกล้ง และ ความคึกคะนอง

ทั้งนี้ในปี 2567 ที่ผ่านมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดจุดความร้อน 7,050 จุด พื้นที่ป่าเสียหาย 880,186 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 21.40 ของพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้งหมด การจัดตั้งจุดเฝ้าระวัง การดับไฟปาตามแนวทางแผนระดมพลดับไฟปา ดังนี้แผนระดมพลดับไฟป่าที่ 1 สถานการณ์ควบคุมได้  แผนระดมพลดับไฟป่าที่ 2 สถานการณ์รุนแรง และแผนระดมพลดับไฟป่าท 3 สถานการณ์วิกฤต

———————————–

ทศพล / แม่ฮ่องสอน