นบ.ยส.35 โชว์ผลงาน 10 เดือน จับกุม 412 คน ปราบยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 246 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์กว่า 94 ล้านบาท

นบ.ยส.35 โชว์ผลงาน 10 เดือน จับกุม 412 คน ปราบยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 246 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์กว่า 94 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ที่ห้องพลอยไพลิน โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยราชการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วรพัฒน์ บุญมา ผบก.ตชด.ภาค 3 พ.ต.อ.จักริน พิริยะจิตตะ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการสกัดกั้น กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายกฤษณ์ ภู่ประดิยุทธกุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ นายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ.6 นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 และนายประจักร ไชยกิจ ปลัดจังหวัดน่าน และฝายปกครอง จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และแม่ฮ่องสอน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ภายหลังจากรัฐบาลต้องการให้ปัญหายาเสพติดลดลงให้ได้ภายใน 1 ปี โดยกำหนดพื้นที่ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 11 อำเภอ ชายแดนของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัด

 

 

เชียงราย และได้กำหนดพื้นที่เพิ่มเติมอีก 7 อำเภอชายแดนของจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา และน่าน รวมเป็น 18 อำเภอใน 6 จังหวัด

โดยในวันที่ 9 – 10 กันยายน 2567 ได้จัดประชุมทบทวนผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในกลไก ที่บูรณาการงานร่วมกัน อาทิ หน่วยงานทหาร (กองกำลังผาเมือง,กองกำลังนเรศวร) ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรภาค 6 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ รวมถึงสำนักงาน ปปส.ภาค 5 และ ปปส.ภาค 6 เพื่อทบทวนการทำงานที่ผ่านมาและเตรียมวางแผนงานการดำเนินงานในปี 2568 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการจัดระเบียบหมู่บ้านชายแดน สถานประกอบการ สถานบันเทิงในพื้นที่ และได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพแกนนำหมู่บ้าน/ชรบ. ในพื้นที่ชายแดน และส่งเสริมให้ ชรบ. ปฏิบัติการตรวจตราเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน

ในปีงบประมาณ 2568 จะดำรงความต่อเนื่องในการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสนองตอบต่อนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลงให้มากที่สุด จนไม่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทย และนำความปลอดภัยมาสู่พี่น้องประชาชน ซึ่งด้านการสกัดกั้นยาเสพติด ฝ่ายทหาร จะกำหนดกลยุทธ์และเอกภาพการบัญชาการในพื้นที่ โดยจะบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจเพื่อแบ่งมอบพื้นที่และภารกิจให้สอดคล้องกับหน่วยงานป้องกันชายแดน ในส่วนด้านงานปราบปราม จะใช้กลยุทธ์การประสานงานข่าวยาเสพติดชายแดนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อกำหนดสภาพแวดล้อม บีบบังคับ กำจัดเสรีการปฏิบัติของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด จนนำไปสู่การจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายการค้ายาเสพติด เพื่อลดทอนศักยภาพของเครือข่ายการค้ายาเสพติด ส่วนด้านการป้องกันยาเสพติด เน้นการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนชายแดน ให้มีความเข้มแข็ง รวมถึงการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะใช้กลไกความร่วมมือในระดับท้องถิ่นบริเวณชายแดน เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงสถานการณ์ความรุนแรงและปัญหายาเสพติดร่วมกัน และให้ความร่วมมือในการจับกุมผู้กระทำผิดยาเสพติดที่หลบหนีหมายจับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นำกลับมาลงโทษเพื่อตัดวงจรการค้าและการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต่อไป
พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.นบ.ยส.35 ได้เปิดเผยว่า จากการบูรณาการงานด้านการข่าวกับหน่วยงานที่ข้อง คาดการณ์ปริมาณยาเสพติดที่พักคอยตามแนวชายแดนด้านตรงข้ามภาคเหนือของไทย รอการสั่งและนำเข้า มียาบ้าไม่น้อยกว่า 80 ล้านเม็ด, ไอซ์ ประมาณ 1,000 กก.ซึ่งยาเสพติดที่เข้าไปในพื้นที่ภาคกลาง หรือภาคได้ มีดลาตรองรับเป็นคนไทย ซึ่งยาเสพติดที่เข้าไปในพื้นที่ภาคกลางหรือภาคใต้มีตลาดรองรับเป็นกลุ่มคนไทย โดยประเภทยาบ้า กลุ่มคนไทยเป็นหลัก และประเภท ไอซ์, เคตามีน, เฮโรอีน เน้นตลาดต่างประเทศ/ปลายทาง ผ่านเครือข่ายที่จัดตั้งขึ้นขึ้นในเขตไทย
มีหลายเครือข่าย แต่จะแบ่งได้เป็น 2 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่ภาคใต้ : ผ่านเครือข่ายภาคใต้ – มาเซีย 2)ที่ภาคกลางออก : ผ่านเครือข่าย ลงทะเลไปประเทศปลายทาง เช่น กัปตันตุ้ย ฯลฯ (เคสนี้ส่วนใหญ่จะซุกซ่อนในยานพาหนะ) ตัดตอนภาคกลาง เข้าโกดังภาคตะวันออก ลงทะเล)

สำหรับการห้วงที่ผ่านมา นบ.ยส.35 มีผลการดำเนินการ ในพื้นที่ ชายแดนภาคเหนือ 6 จังหวัด 18 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66 ถึงปัจจุบัน(8 ก.67) มีเหตุการณ์สำคัญ 134 เหตุการณ์ มีการปะทะกับกลุ่มขมขบวนการ 44 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 78 ครั้ง ขยายผลยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการรายสำคัญ 6 ครั้ง ติดตามจับกุบกุนอกพื้นที่ 7 ครั้ง สามารถยึด ยาบ้า

 

 

256 ล้านเม็ดเศษ,ไอซ์ 2,682 กิโลกรัม, เฮโรอีน 375 กก.,ฝิ่นดิบ 206 กก., คีตามีน 21 กก., จับกุมผู้ต้องหา 1,607 ราย
กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 31 ศพ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชายแดนด้าน อ.ฝาง, อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.แม่ฟ้าหลวง,อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องชายแดนและพื้นที่ตอนใน

.นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *