พายุโซนร้อนยางิ ถล่ม 20 นาที พัดต้นไม้โค่นทับเก๋งพังยับ สาว 34 เผยรอดตายเฉียดฉิวครั้งที่ 2
วันนี้ (6 ก.ย.2567) ที่ จ.นครพนม จากอิทธิพลพายุโซนร้อนยางิ หลังขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม แผ่ปกคลุมที่ฝั่ง สปป.ลาว ส่งผลให้พื้นที่ จ.นครพนม มีพายุฝนตกกระหน่ำ ตั้งแต่เวลา 11.10 น.นาน 20 นาที แรงลมที่กระโชกรุนแรง ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่คือต้นอินทรีย์ หรือ ต้นหางนกยูง อายุ 100 ปี และอายุ 50 ปี หักโค่น 2 ต้น ล้มทับรถเก๋งสาวอายุ 43 ปี พังยับเยินได้รับความเสียหาย เหตุเกิดริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร
น.ส.กฤษณา นะวันติ๊บ อายุ 43 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส ทะเบียน 1 ขพ 3711 กรุงเทพมหานคร โดยยืมญาติขับมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อมาเยี่ยมย่าทวดที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ขณะขับมาส่งแฟนมาซื้อสิ่งของในตัวเมือง จึงจอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่ยืนโทรศัพท์บริเวณริมฝั่งโขง ขณะนั้นท้องฟ้ามืดคลึ้มดำทะมึน มีลมพัดกระหน่ำรุนแรง ก่อนมีพายุฝนฟ้าคะนอง
น.ส.กฤษณา กล่าวต่อว่า ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองจึงรีบวิ่งขึ้นไปหลบฝนในรถ ขณะนั้นได้ยินเสียงลมซัดแรง ต้นไม้ใหญ่ที่จอดหลบได้หักโค่นเสียงดังครืน จึงกรีดร้องด้วยความตกใจ โคนต้นไม้ฝ่ากลางระหว่างเบาะคนขับและเบาะนั่งคนขับ หลังคายุบและกระจกแตกได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดี 2 คนมาช่วยออกจากรถ
ก่อนหน้านี้เคยขับรถแหกโค้งที่ จ.แพร่ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด รอดตายมาแล้วครั้งหนึ่ง สาเหตุที่รอดตายเฉียดฉิววันนี้ไม่ได้ห้อยพระอะไร ส่วนใหญ่จะทำบุญกับพ่อกับแม่และสัตว์จรจัด กระทั่งมาทำบุญที่บ้านย่าทวด เนื่องจากตนเป็นลูกสะใภ้ชาว อ.ท่าอุเทน ขับรถมาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่นึกว่าจะเกิดพายุลมแรงขนาดนี้ จึงรอดตายเป็นครั้งที่ 2
นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ได้สั่งการให้นายวัฒนศักดิ์ เจียวิริยบุญญา รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นำเจ้าหน้าที่งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เทศบาลเมืองนครพนม ปิดกั้นการจราจรหน้าโรงเรียนสุนทรวิจิตร ริมฝั่งแม่น้ำโขง นำรถกระเช้าและเลื่อยยนต์ ตัดแต่งกิ่งต้นไม้จำนวน 2 ต้นที่ค้นล้ม ใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
หนุ่มน๊อต ข่าวสด ภาพข่าว สุเทพ หันจรัส ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม
เพจพี่ก๊อต รายงาน