นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล แบบบัญชีรายชื่อ พรรคท้องที่ไทย ได้มีส่วนร่วมอภิปรายในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๘ ในมาตรา ๑๔ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันพุธที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๗ นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล (แบบบัญชีรายชื่อ) พรรคท้องที่ไทย ได้มีส่วนร่วมอภิปรายในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๘ ในมาตรา ๑๔
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใน ซึ่งอภิปรายถึง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เนื่องจากมีหลายกรม ที่จะตัดกับส่วนที่ไม่ได้เป็นประโยชน์
อะไร แล้วก็ขอให้ไปเพิ่มกับในส่วนที่มีประโยชน์จริง ๆ โดยเฉพาะผมจะขอไปพูดถึงเรื่องกรมการข้าว เพราะว่ามีเพื่อนสมาชิกหลายท่านได้อภิปรายเพิ่ม ส่วนที่ตัดออกไป ขอมาเพิ่มในส่วนนี้ได้ไหมครับ เพราะว่าในส่วนนี้ยังขาด กรมการข้าวได้งบประมาณมาแค่เพียง ๔๐๐ กว่าล้านบาท สิ่งที่ขาดในกรมการข้าวก็คือกองทุนหมุนเวียนในการผลิต
พันธุ์ข้าว พันธุ์ข้าวนี่เป็นปัญหาในประเทศไทยมานานแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้
ขาดการควบคุมพันธุ์ข้าวที่ทำกันอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ ในพื้นที่ภาคกลางส่วนใหญ่
เป็นข้าวนาปรัง ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่นำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม เขาเรียกว่า
พันธุ์ข้าวหอมพวง หรือข้าวพันธุ์ ๕๔๕๑ หรือพันธุ์ Jasmine ที่ทำกันทั่วประเทศ
ณ ปัจจุบัน เนื่องจากขาดการควบคุมจริง ๆ โดยเฉพาะกรมการข้าวก็ไม่สามารถเอาพันธุ์พวกนี้
มาปรับปรุงได้ เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอแล้วก็ไม่เพียงพอที่จะผลิตให้กับพี่น้องเกษตรกรในประเทศไทยด้วย ก็เลยไปเอามาจากประเทศเวียดนามแล้วก็ปลูกแล้วขายกัน
แล้วก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะถ้าเกษตรกรเมื่อราคาดีปุ๊บก็จะทำเหมือนกันหมดทั้งประเทศ พอทำเหมือนกันหมดปุ๊บก็จะทำให้ข้าวชนิดนี้ราคาถูกลงนะครับ ก็เลยเป็นปัญหา
ก็อยากให้เพิ่มงบประมาณส่วนนี้ไปที่กรมการข้าวนิดหนึ่งเพื่อที่จะผลิตพันธุ์ข้าวออกมาเพื่อให้เพียงพอกับพี่น้องเกษตรกรได้ทั้งประเทศ และในส่วนที่ ๒ ในวงเงิน
โครงการชะลอการขาย โครงการชะลอขายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จากปี ๒๕๖๗ นี้
ที่จะต้องใช้ภายใน ๓๐ กันยายน ปี ๒๕๖๗ วงเงินเดิม ๑ ล้านตัน วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งถามว่าเพียงพอหรือไม่ ไม่เพียงพอ ผมอยากให้เพิ่มเป็นสัก ๒ ล้านตัน วงเงินสัก
๒๐,๐๐๐ ล้านบาท เนื่องจากในภาวะประเทศไทย ณ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีเลย โดยเฉพาะภาคเกษตร โดยเฉพาะโรงสีในกลุ่มโรงสีที่จะเข้ามาซื้อข้าวให้กับพี่น้องเกษตรกร ตอนนี้ถือว่าย่ำแย่แล้วก็ขาดสภาพคล่องกันหมด แล้วส่วนใหญ่ธนาคารที่ปล่อยกู้อยู่ ก็ตัดวงเงินกันไปครึ่งหนึ่งแล้วตรวจ Stock กันเข้มมาก ก็กลายเป็นว่าขยับหรือทำอะไรกัน ไม่ได้เลย โครงการชะลอขายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑ ล้านตัน วงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ถ้าเพิ่มได้ในส่วนที่ตัดออกไปในส่วนที่ไม่จำเป็นในโครงการอื่น
ก็อยากให้เอามาใส่ตรงนี้เพิ่มครับ เพื่อจะได้ให้พี่น้องเกษตรกรได้รับข้าวราคาที่เพียงพอ ซึ่งดีกว่านี้ตอนนี้ก็ถือว่าดีแล้วครับ แต่ว่าถ้ามีโครงการดี ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการชะลอขายนี้ถ้ามันเพิ่มเงินไป ๒ ล้านตัน ใช้วงเงินสัก ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ก็จะทำให้
เกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพดีมากเลย อันนี้ผมขอสนับสนุนจริง ๆ ครับ