ภรรยาร่ำไห้ อดีตผู้จัดการ ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ก่อนหายตัวปริศนาตั้งแต่วันพฤหัสฯที่ผ่านมา กระทั่งพบเป็นศพจมน้ำดับ เผยคำพูดสุดเศร้า

ภรรยาร่ำไห้ อดีตผู้จัดการ ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ก่อนหายตัวปริศนาตั้งแต่วันพฤหัสฯที่ผ่านมา กระทั่งพบเป็นศพจมน้ำดับ เผยคำพูดสุดเศร้า

 

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.ค.2567 ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สามโคก รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำซึ่งเป็นบ่อดินเก่าริมถนนทางหลวงหมายเลข 9 วงแหวนรอบนอก ม.3 ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.สามโคก ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์นิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เและจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

 

 

 

 

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายยุทธพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี สภาพศพสวมกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ ไม่สวมเสื้อ ลอยคว่ำหน้าอยู่กลางบ่อน้ำ แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน ริมถนนข้างทางพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ และมีหมวกกันน็อกสีดำวางอยู่บนกระจกรถด้านขวา

ภรรยาร่ำไห้ อดีตผู้จัดการ ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ก่อนหายตัวปริศนาตั้งแต่วันพฤหัสฯที่ผ่านมา กระทั่งพบเป็นศพจมน้ำดับ เผยคำพูดสุดเศร้า

จากการสอบถาม นายเกียรติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า เจอรถจักรยานยนต์จอดอยู่ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่พบผู้ขับขี่กระทั่งเช้าวันนี้ตนขับรถผ่านมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกู้ภัยจอดอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้จอดรถลงมาดู ก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่กลางบ่อน้ำดังกล่าว

ต่อมา นางพรพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่สภ.สามโคก กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สามีได้ออกจากคอนโดเวลา 07.30 น. เพื่อไปส่งลูกที่โรงเรียน จากนั้นเขาก็หายไป ตนคิดว่าเขาไปไหนตามปกติ

 

นางพรพรรณ กล่าวต่อว่า จากนั้นผู้ตายก็โทรศัพท์มาหาตน และถามว่ากินข้าวหรือยังเวลาประมาณ 09.00 น. กระทั่งเวลาประมาณเที่ยง ผู้ตายก็โทรศัพท์มาหาตนและถามว่า เปลี่ยนชื่อที่โทรศัพท์เป็นปะป๋า 2 หรือเปล่า ตนก็บอกว่าจะบ้าเหรอไม่ได้เปลี่ยน ตนไม่สามารถเปิดโทรศัพท์ผู้ตายได้เลย เพราะลูกบอกว่าปะป๋าใช้ใบหน้าสแกน

นางพรพรรณ กล่าวอีกว่า ตนเข้าประชุมเวลาประมาณ 14.00 น. อีก 2 ครั้ง แต่ตนปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ไม่ได้รับ และมีมิจฉาชีพโทรมาเยอะ พอตนกลับมาที่บ้านก็หยิบโทรศัพท์มาดู ก็พบว่าสามีโทรศัพท์มา ตนก็เลยโทรกลับไปก็ไม่มีคนรับ ไลน์ไปก็ไม่มีคนอ่าน

 

นางพรพรรณ กล่าวด้วยว่า ตนโทรศัพท์ทุกวัน พอช่วงเช้าวันศุกร์ ตนก็ไปแจ้งความที่สน.ประชาชื่น ให้ช่วยตามหาและขอความช่วยเหลือจากพี่รู้จักกันที่ทำงานอยู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยตามหาสามี

นางพรพรรณ กล่าวว่า จากนั้นพี่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เอาใบที่ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ประชาชื่น เอาไปให้เขา เขาจะช่วยตรวจสอบให้ และก็จับสัญญาณโทรศัพท์ได้ว่าอยู่ที่สามโคก ตนก็โทรศัพท์หาเรื่อย ๆ และติดต่อทางโรงพยาบาลในปทุมธานีก็ไม่มี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บอกว่าให้โทรศัพท์ไปที่ สภ.สามโคก ให้ช่วยติดตาม

 

นางพรพรรณ กล่าวต่อว่า จนเมื่อช่วงเช้าวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปบอกว่าพบรถจักรยานยนต์แล้ว และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยโทรศัพท์ไปหา ซึ่งสามีเป็นอดีตผู้จัดการส่วนขายของบริษัทแห่งหนึ่ง สาเหตุที่สามีลาออกมาเพราะเขาบอกว่าที่นั่นไม่มั่นคงและก็ลาออกเอง

ภรรยาผู้ตาย กล่าวอีกว่า ตอนนี้สามีก็ขับรถอยู่แอปพลิเคชันโบลท์ซึ่งเป็นแอปฯส่งผู้โดยสาร ซึ่งผู้ตายบอกตนตลอดว่า “อย่าทิ้งเขานะ รักเขาไหม” ตนบ้านอยู่ต่างจังหวัดและมีลูกด้วย 1 คน ยอมอยู่ที่นี่เพื่อเขาและอยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว ผู้ตายมีปัญหาที่คอและขับต่างจังหวัดนาน ๆ เขาจะปวดคอ และมีคำหนึ่งเขาพูดว่า “พรอย่าทิ้งพี่นะ พี่มีแค่ลูกลูกกับพรเท่านั้น”

ด้าน ร.ต.อ.วรภัค หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *