สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมโครงการสืบสานพระราชปณิธาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมโครงการสืบสานพระราชปณิธาน

 

 

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 – ประจวบคีรีขันธ์ // นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย พันตำรวจโท กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่

 

ร่วมจัดกิจกรรมในโครงการสืบสานพระราชปณิธาน ณ โรงเรียนอานันท์ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า โครงการสืบสานพระราชปณิธานเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะองคมนตรีดำเนินโครงการสืบสาน

พระราชปณิธาน สืบสาน รักษา และต่อยอดพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร พร้อมรับทราบปัญหาความเดือดร้อน

เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งการดำเนินโครงการในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครั้งนี้มีพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานแก่ราษฎรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนเชิญพระราชกระแสความห่วงใย และสิ่งของพระราชทานไปมอบให้กับราษฎรในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ มูลนิธิ และองค์กรที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะองคมนตรีกำกับดูแล

ในการให้ความช่วยเหลือราษฎรในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ความเป็นอยู่ที่ดี และก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ราษฎรสืบไป อาทิ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ได้จัดถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 500 ชุด มูลนิธิพระดาบสออกหน่วยให้บริการ

ด้านต่าง ๆ โรงพยาบาลรามาธิบดีร่วมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการด้านสุขภาพ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้บริการรับเรื่องร้องเรียน สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความรู้และบริการปรึกษาด้านกฎหมาย มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าเพื่อเยาวชนและสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยสนับสนุนทุนการศึกษา มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนมอบชุดหนังสือเผยแพร่ความรู้สำหรับเยาวชน และมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมมอบอุปกรณ์สำหรับการศึกษาทางไกล

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในการนี้ สำหรับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน

อย่างหลากหลาย มีทั้งนิทรรศการเทิดทูนพระมหากษัตริย์ นิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดิน

พร้อมการจัดอบรมให้ความรู้แก่ครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนอานันท์ จำนวนกว่า 50 คน เรื่อง “ความรู้เกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดินในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมของประชาชน” และ “หน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงการรักษาสิทธิประโยชน์และการเข้าถึงความเป็นธรรม รวมทั้งตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของพลเมืองที่ดี สร้างจิตสำนึกการเป็นประชาชนที่มีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย อีกกิจกรรมที่สำคัญ คือ การออกหน่วยรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (Mobile Unit) ให้บริการรับเรื่องร้องเรียน ให้คำปรึกษาปัญหาด้านกฎหมาย ตลอดจนจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งมีพี่น้องประชาชนชาวอำเภอหัวหิน

เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่งกว่า 500 คน นอกจากนี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้นำเสนอผลการแก้ไขปัญหาเรื่องเรียนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีปัญหาน้ำท่วมขังตามสันดอนทรายบริเวณชายหาดเขาเต่าที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อประธานในพิธีเพื่อทราบด้วย

ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินมีบทบาท หน้าที่และอำนาจในการรับเรื่องร้องเรียน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่ามี

ผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรม และเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือคำสั่ง หรือขั้นตอนใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดินอาจเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัยในกรณีที่เกี่ยวข้องได้ และเนื่องจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีที่ตั้งเพียงแห่งเดียว คือที่กรุงเทพมหานคร ประชาชนในต่างจังหวัดอาจยังไม่รู้จักเท่าที่ควร หรืออาจยังจำสับสนกับหน่วยงานอื่น ด้วยเหตุนี้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ออกหน่วยประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ (Mobile Unit) บริการให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาท หน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตลอดจนช่องทาง

การร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ณ ตลาดโต้รุ่งหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ณ โรงเรียนอานันท์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนยังสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ เช่น โทรศัพท์สายด่วน 1676 (โทรฟรีทั่วประเทศ) ทางอินเทอร์เน็ต www.ombudsman.go.th และทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น

 

 

พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *