บุรีรัมย์ โพสต์ผิดชีวิตอาจเปลี่ยนเฮียโพสขายรถประกอบ ปะทะสรรพสามิตไป

บุรีรัมย์ โพสต์ผิดชีวิตอาจเปลี่ยนเฮียโพสขายรถประกอบ ปะทะสรรพสามิต

อำเภอนางรอง//เฮียเจ้าของร้านขายอุปกรณ์การเกษตรโพสต์ขายรถมอเตอร์ไซค์ สรรพสามิตเห็นผ่านตารู้รถนำเข้า ตรวจสอบเกิดปะทะกับเจ้าของรถอ้างไม่รู้เรื่องซื้อมาขายไป ขณะสรรพสามิตให้โอกาสหาหลักฐานมาประกอบ ถ้าไม่มีเอาผิดไม่เสียภาษี

เบื้องต้นแจ้งแล้ว 1 หมิ่นประมาท จนท.และ พรบ.คอม จ่อเอาผิดไม่เสียภาษี

วันที่ 9 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุรีรัมย์ นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านขายอุปกรณ์ทางการเกษตร ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังมีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์วิบาก ซึ่งมีลักษณะนำเข้าโดยไม่เสียภาษี

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการสอบถามและตรวจสอบ เจ้าของรถได้ถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในคลิปนั้นมีการโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ ว่ารถซื้อมาอย่างถูกต้องมีใบอินวอยประกอบ และยังโวยวายหลังเจ้าหน้าที่จะให้เสียค่าปรับเป็นเงิน 7,500 บาท แต่ไม่สามารถตกลงกันได้

ซึ่งล่าสุดสรรพสามิตจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทางไปที่ สภ.นางรอง อ.นางรอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายภัทร์ธนศักฏ์ มหัทธนโภคจินดา อายุ 33 ปี เลขที่ 70 หมู่ 13 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ทางการเกษตร ฐานหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ และผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ หลังจากนายภัทร์ธนศักฎ์ นำคลิปวันที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบไปโพสต์ต่อว่าเจ้าหน้าที่

นายภัทร์ธนศักฏ์ มหัทธนโภคจินดา เจ้าของรถจักรยานยนต์วิบาก เล่าว่า ตนซื้อรถคันนี้มาจากคนใน อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา แต่อยากขายต่อจึงโพสต์ขายทางเพชบุ๊คส่วนตัว ในราคา 25,000

หลังจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาพบ แล้วกล่าวหาว่าไม่ได้เสียภาษี ตนก็ยืนยันว่ามีหลักฐานเป็นใบอินวอย เพราะเจ้าของเดิมให้มาแค่นี้ แต่จะมารีดภาษีตนรู้สึกไม่พอใจเพราะซื้อมาอย่างถูกต้อง แต่ยอมรับว่า”ไม่รู้กฎหมายด้านนี้”จริงแล้วเจ้าหน้าที่จะต้องมาทำความเข้าใจกับประชาชนมากกว่าไม่ใช่จะมาตามจับเหมือนจะมาหาเงิน

ด้านนายวิชญ์นุงพงษ์ วิสัยกร หัวหน้าฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ กล่าวว่า สรรพสามิตมีหน้าที่ตรวจจับกลุ่มเลี่ยงภาษี เมื่อเห็นสภาพรถรู้ทันทีว่าเป็นรถนำเข้ามาประกอบ จึงเข้าไปตรวจสอบตามหน้าที่

แต่เจ้าของรถกลับต่อต้าน ทั้งยังเอาคลิปภาพและบัตรเจ้าหน้าที่ ไปโพสต์ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ จึงทำการแจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาทและ พรบ.คอมพิวเตอร์ ส่วนกรณีรถจักรยานยนต์วิบาก จะให้เวลาเจ้าของรถหาเอกสารมายืนยัน หากหาไม่ได้จะต้องถูกดำเนินคดีที่ไม่ชำระภาษีนำเข้า ซึ่งมีอัตราโทษปรับ 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมินรถ ตั้งแต่ 5-15 เท่า(รถที่ประกาศขาย 25,000 ปรับ 20 เปอร์เซ็นต์เท่ากับ เท่าละประมาณ 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ว่าจะปรับกี่เท่า)

 

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง จ.บุรีรัมย์ รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *