ตำรวจภูธรภาค 2 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ 2 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหา 11 ราย ของกลางยาไอซ์ 42 กิโลกรัม ยาบ้า 81400 เม็ดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 2 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ 2 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหา 11 ราย ของกลางยาไอซ์ 42 กิโลกรัม ยาบ้า 81400 เม็ดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท


ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 วันที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา11.30 น. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ 2 เครือข่าย ของกลางยาไอซ์ 42 กิโลกรัม ยาบ้า 81400 เม็ด และทำการยึดรถยนต์ จำนวน 4 คัน ไปทำการตรวจสอบ
พฤติการณ์ในการจับกุม คือ
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เมืองนครนายก ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา บริเวณแยกสามสาว ม.1 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีออส คันหมายเลขทะเบียน กล 7500 ลพบุรี ขับขี่รถเข้าจุดตรวจจุดสกัด พฤติการณ์มีพิรุธต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ 1.นายพงษ์ปกรณ์ฯ (เป็นผู้ขับขี่) 2.นายหิรัญ (นั่งเบาะข้างผู้ขับขี่)3.น.ส.มณีรัตน์ (นั่งเบาะตอนหลัง) ผลการตรวจค้นรถพบ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) จำนวน 42 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่กระโปรงหลังรถ และในยางอะไหล่รถ   จึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนยาบ้า จำนวนดังกล่าว จับได้ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งยาไอซ์หากอยู่ภายในประเทศไทยจะมีราคาที่กิโลกรัมละ 100,000 บาทหากข้ามไปยังต่างประเทศซึ่งเป็นตัวที่นิยมจะมีราคาสูงถึง 1,000,000, บาทซึ่งทั้งหมดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบสวนนายหิรัญฯ รับว่า ตนเองได้รับว่าจ้างจากนายบอส ให้นำยาเสพติดของกลางไปส่ง ในราคา 50,000 บาท โดยนายบอสให้ตนเองนำรถยนต์เก๋ง ไปจอดทิ้งไว้รอเพื่อรับยาเสพติดบริเวณ ซอย 7 ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี แล้วจะมีนายโต โต้ นำรถยนต์ของตนเองไปใส่ยาเสพติดแล้วจะนำรถมาคืนไว้จุดเดิม และแจ้งให้ตนเองกลับไปรับรถยนต์ตามจุดเดิม ต่อมาตนเองได้เดินทางไปรับแล้วได้เดินทางกลับบ้านไปรับนายพงษ์ปกรณ์ฯ และน.ส.มณีรัตน์ฯ ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และได้ออกเดินทางเพื่อจะไปส่งยาเสพติดที่ทับช้างรีสอร์ท ต.ทับช้าง อ.สอยดาว    จ.จันทบุรี เพื่อรอบุคคลมารับยาเสพติดต่อไป แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ซึ่งในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้บงการและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นปราบปรามยาเสพติดและเร่งรัดขั้นตอนยึดทรัพย์จัดการขบวนการค้ายาเสพติดโดยเร็ว และแนวทางการบริหารราชการของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เน้นแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นปราบปรามผู้ผลิตและผู้ค้ายาเสพติดโดยใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *