นครพนม-ปัญหาใหญ่ของป้าวัย 55 ปีอกหักซ้ำสองกู้หนี้นับแสนฟ้องกราวรูด 14 รายเดินหน้าทวงคืนที่ดินมรดก สุดท้ายโฉนดออกทับที่รัฐ

นครพนม-ปัญหาใหญ่ของป้าวัย 55 ปีอกหักซ้ำสองกู้หนี้นับแสนฟ้องกราวรูด 14 รายเดินหน้าทวงคืนที่ดินมรดก สุดท้ายโฉนดออกทับที่รัฐ


*****
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นางสมพงษ์ กำไรเงิน อายุ 55 ปี หรือ ยายแอน อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 9 ต.โคกสูง อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้นำเอกสารเป็นโฉนดที่ดิน ออกมาร้องเรียนกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีมีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน โดยยายแอนอ้างว่าหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงชุมชนหมู่บ้าน บุกรุกที่ดินมรดก เนื้อที่ประมาณ 2 งาน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน โดยยืนยันว่าตนเองมีเอกสารสิทธิ์ คือโฉนดที่ดิน น.ส.4 จ. เลขที่ 22775 เล่ม 228 หน้า 75 อ.ปลาปาก จ.นครพนม เนื้อที่ 2 งาน 59 ตารางวา ออกเมื่อปี 2542
ต่อมาทางชุมชนหมู่บ้าน และ อบต.โคกสูง อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้นำเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบ พบว่าที่ดินที่ตนถือครองอยู่นั้น มีที่มาเป็น น.ส.ล. หรือที่สาธารณะใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีหลักฐานยืนยันมาตั้งแต่ปี 2536 ถือว่าก่อนการออกเอกสารสิทธิ์ของนางสมพงษ์ กำไรเงิน อายุ 55 ปี หรือ ยายแอน พร้อมมีการชี้แจงเพื่อเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ยายแอนถือครองอยู่ และจะดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ให้ใหม่ เชื่อว่าระหว่างออกรังวัดที่ดินเกิดความผิดพลาด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางรัฐไม่มีเจตนาที่จะครอบครองเอกสารสิทธิ์ของชาวบ้าน เพียงยืนยันตามเอกสารหลักฐาน และขั้นตอนของกฎหมาย จนเกิดข้อพิพาทระหว่างนางสมพงษ์ กำไรเงิน อายุ 55 ปี หรือ ยายแอน ที่ยอมกู้เงินนับแสนบาท เพื่อจ้างทนายเดินหน้าฟ้องร้อง บุคคลเกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ในฐานความผิดบุกรุก ขับไล่ ทำให้เสียทรัพย์ โดยมีจำเลยมากถึง 14 ราย และต้องสู้คดีมานานกว่า 2 ปี
ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครพนม พิพากษา ยกคำร้อง เนื่องจากโจทย์มีเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินฉบับเลขที่ดังกล่าว ออกหลังที่ดิน น.ส.ล. ทั้งนี้ทางโจทย์คือยายแอน ยังยืนยันที่จะเรียกร้องที่ดินคืน และมั่นใจว่าเป็นที่มรดกจากบรรพบุรุษ สุดท้ายเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และในที่สุดแพ้คดี โดยยายแอนกล่าวว่าที่ดินดังกล่าว แม้มีมูลค่าเพียงหลักหมื่น แต่ยอมเสียค่าใช้จ่าย ฟ้องร้องสู้คดี หมดเงินนับแสนบาท นอกจากนี้ลูกสาววัย 19 ปี ยังต้องหมดอนาคต ไม่มีเงินเรียนต่อ ต้องหยุดเรียนกลางคัน ขณะกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ มหาวิทยาลัยนครพนม
นางสมพงษ์ กำไรเงิน อายุ 55 ปี หรือ ยายแอน เปิดเผยว่า ตนต่อสู้คดีมานานกว่า 2 ปี เกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดิน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ รวมถึง อบต.โคกสูง เพราะเชื่อมั่นจากเอกสารหลักฐานเป็นโฉนดที่ดิน น.ส. 4 จ. จนชาวบ้านมองว่า ตนอยากได้ที่ดินรัฐ กลายเป็นแกะดำในหมู่บ้าน จึงกู้หนี้ยืมสินเป็นเงินนับแสนบาท เพื่อจ้างทนายฟ้องเรียกร้องสิทธิ์ ขอความเป็นธรรมหวังกู้ศักดิ์ศรี คิดเสมอว่าจะต้องได้ที่ดินคืน ทั้งที่ฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ ทำงานรับจ้างรายวัน ยอมรับว่า มูลค่าที่ดินอาจไม่สูง เท่ากับการว่าจ้างทนายเพื่อสู้คดี แต่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และไม่รู้ช่องทางต่อสู้ จึงต้องไปพึ่งกระบวนการยุติธรรม เพราะมีเอกสารสิทธิ์อยู่ในมือ เชื่อว่าได้มาถูกต้องตามกฎหมาย สุดท้ายไม่คิดว่าจะแพ้คดี ทั้งที่มั่นใจตลอดว่าโฉนดที่ดิน ที่เกิดข้อพิพาทเป็นของตนเอง หรือหากผิดพลาดจริง ตนยังคาใจว่าภาครัฐทำไมไม่ยอมช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ปล่อยให้ตนต่อสู้มาถึงวันนี้ เสียทั้งเงินทั้งเวลา จนลูกสาวต้องหยุดเรียนหนังสือ หมดอนาคต ไม่มีคนรับผิดชอบช่วยเหลือ มาถึงวันนี้ยังมั่นใจว่าที่ดินผืนนี้เป็นของตนเอง
ส่วน นายเมฆินทร์ มวลปาก อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านโคกสูง หมู่ 9 ต.โคกสูง อ.ปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเกิดข้อพิพาทกับนางสมพงษ์ กำไรเงิน อายุ 55 ปี หรือ ยายแอน ได้พยายามหารือชี้แจงทำความเข้าใจ แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่าที่ดิน เป็นของตนเอง โดยทางชุมชนหมู่บ้าน ได้เข้าไปสร้างอาคารยุ้งฉางข้าวชุมชน บนที่ดินที่เป็นข้อพิพาทกัน และกลายเป็นคดีความ เมื่อยายแอนพร้อมลูกๆเข้าทำการรื้อถอนยุ้งฉาง จนต้องชดใช้เป็นเงินมาแล้ว สุดท้ายก็ยังไม่ยอมรับความจริง
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 กล่าวต่อว่าในส่วนเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินของยายแอนถือครองอยู่นั้น จากการตรวจสอบอาจครอบคลุมถึงที่สาธารณะใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ก็ได้ประสานสำนักงานที่ดิน ออกมารังวัดยืนยันอีกครั้ง ปรากฎว่าโฉนดที่ดินของยายแอนได้มาในปี 2542 ถือว่าได้มาหลังที่ดิน น.ส.ล. ออกเมื่อปี 2536 จึงต้องยืนยันเอกสารทางกฎหมายเป็นหลัก โดยทางผู้นำชุมชนท้องถิ่น ไม่มีเจตนารังแกลูกบ้าน เคยชี้แจงหาทางช่วยเหลือมาตลอด แต่ยังไม่รับฟัง จึงต้องอาศัยกระบวนการทางกฎหมายเป็นหลัก สำหรับโฉนดที่ดินที่ยายแอนครอบครอง อยู่ในระหว่างการเพิกถอน และประสานหน่วยงานที่ดินออกฉบับใหม่ที่ถูกต้องชัดเจน หากยายแอนได้รับผลกระทบ จากการออกเอกสารสิทธิ์ของหน่วยงานที่ดิน จะต้องเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่จะเรียกร้องที่ดินคืนคงเป็นไปไม่ได้
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *