ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องใน “วันปิยมหาราช”

อยุธยา – ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องใน “วันปิยมหาราช”

วันนี้ (23 ตุลาคม 2566) เวลา 08.45 น. ที่ หอประชุมพระพิรุณระลึกโปรดเกล้าฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เป็นประธานวางพวงมาลา และจุดเครื่องทองน้อยถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ พร้อมกล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ศาล ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน สมาคม มูลนิธิ นักเรียน นักศึกษา จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนชาวอยุธยาสวมเสื้อสีชมพู ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวนกว่า 100 หน่วยงาน รวม 500 คน
ทั้งนี้ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างปลื้มปิติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจที่สำคัญแก่ประเทศชาติและปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มี “การเลิกทาส” การป้องกันการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสและจักรวรรดิอังกฤษ การประกาศให้มีการนับถือศาสนาโดยอิสระในประเทศ โดยบุคคลศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างอิสระ การนำระบบจากทางยุโรปมาใช้ในประเทศไทย ได้แก่ ระบบการใช้ธนบัตรและเหรียญบาท และการใช้ระบบเขตการปกครองใหม่ เช่น มณฑลเทศาภิบาล จังหวัดและอำเภอ เป็นต้น
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 11 แรม 4 ค่ำ ปีจอ ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” หรือพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่งมีความหมายว่า พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม เป็น “วันปิยมหาราช”

เดชา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *