นครพนม-“ยามอุกากองไม่ขลัง” นรข.ยึดยาบ้ากว่า 4 แสนเม็ดริมถนนหลวง แก๊งยาบ้าอาศัยคืนเดือนมืด ช่วงไหลเรือไฟลำเลียง สมุนเผ่นกระเจิงหางจุกก้น
*****
วันที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (บก.นรข.เขตนครพนม) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม น.อ.ณฐพัฒน์ ซื่อมงคล รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (รอง ผบ.นรข.) ร่วมกับ นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม) น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตนครพนม) และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ แถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 435,800 เม็ด
สืบเนื่อง วันที่ 21 ตุลาคม 2566 บก.นรข.เขตนครพนม ซึ่งรับผิดชอบดูแลความมั่นคงในแม่น้ำโขง เฉพาะเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม และจังหวัดบึงกาฬบางส่วน ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาในพื้นที่บ้านศรีนคร หมู่ 8 ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ นรข.เขตนครพนม จึงรายงานให้ พล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) ทราบ พร้อมสั่งการ น.ท.ไพโรจน์ แก้วพลอย หน.สน.เรือธาตุพนม จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ทันที
กระทั่งในเวลาเกือบสองทุ่มของวันเดียวกัน บริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 หรือถนนชยางกูร (สายอุดร-สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร-อำนาจเจริญ-อุบลฯ) มีชายคนหนึ่งแบกกระสอบสีดำ 2 ใบใส่บ่า เดินอยู่ริมถนนมุ่งหน้าไปทาง อ.ธาตุพนม เยื้องๆกับปั๊มน้ำมัน ซึ่งบริเวณนั้นอยู่ห่างชุมชนพอประมาณ ก่อนจะวางกระสอบไว้ที่ริมถนน ไม่นานมีรถกระบะขับมาจอดเทียบ โดยชายคนขับรถเดินลงมาช่วยแบกกระสอบ เพื่อใส่ที่ท้ายกระบะ เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่มาพบพอดี จึงหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่ชายทั้งสองคนรีบทิ้งกระสอบดังกล่าว คนหนึ่งใช้ความชำนาญพื้นที่วิ่งหายไปกับความมืด ส่วนอีกคนวิ่งไปขึ้นรถยนต์ขับเผ่นหนี ชุดปฏิบัติการจึงเข้าตรวจกระสอบต้องสงสัยทั้ง 2 ใบ โดยนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สน.เรือธาตุพนม โดยลักษณะของกลางเป็นห่อกระดาษเทียนประทับตรา Y1 จำนวน 14 ห่อ ภายในเป็นยาบ้านับได้ 435,800 เม็ด
โดยจากพฤติกรรมเป็นขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ ที่มีสายสัมพันธ์กับนักค้ายาฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และแรงงานเถื่อนข้ามชาติ ในแต่ละพื้นที่จะมีสมุนซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ทำหน้าที่ดูลาดเลา และลักลอบลำเลียง อาจมีคนมีสีร่วมขบวนการดังกล่าวด้วย บ่อยครั้งที่ริมถนนสาย 212 ช่วงบ้านนาถ่อนท่า ต.นาถ่อน ไปถึงพื้นที่ ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม ได้มีการตรวจยึดยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหา โดยที่ผ่านมาจะนำยาบ้ามาวางไว้ที่จุดนัดหมาย แถวป้ายบอกทาง หรือหลักกิโล เป็นต้น ตลอดจนเคยยึดทรัพย์ผู้ร่วมแก๊งค้ายาบ้าในพื้นที่ อ.ธาตุพนม มาแล้ว
เช่นการตรวจยึดครั้งล่าสุดนี้ กลุ่มขบวนการค้ายาบ้า อาศัยช่วงจังหวะงานประเพณีไหลเรือไฟ ระหว่างวันที่ 20-30 ตุลาคม 66 โดยคาดว่ามีการขอกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน รวมถึงด้านความมั่นคงไปรักษาความสงบภายในบริเวณงาน อาจเป็นช่องว่างในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด และเป็นห้วงคืนเดือนมืด ประกอบกับระดับน้ำโขงลดลง จึงเป็นโอกาสที่เหมาะแก่การลักลอบขนยาเสพติด ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่ง ได้ไล่เช็คกล้องวงจรปิดแล้ว ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียน
ทั้งนี้ จากข้อมูลเชิงลึก พบว่ายาบ้าที่ระบาดมากสุดในประเทศไทย อันดับ 1 อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีตัวเลข 999 รองลงมาคือ Y1 และประทับตราตัวเลข 111 ระยะหลังได้มีการสร้างตราสินค้ารูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น อาจหมายถึงการขยายฐานผลิตของกลุ่มอื่นๆ ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนสารเคมีหลักที่ใช้เป็นสารตั้งต้น ในการผลิตยาบ้า ระบุแหล่งที่มาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ก่อนส่งมายังพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และเข้าสู่เขตรัฐฉานตอนใน นอกจากนี้มีอีกเส้นทางหนึ่งส่งมาจากชายแดนจีน ผ่านเวียดนามและ ลาว เข้าสู่แหล่งผลิตยาบ้าใน จ.ท่าขี้เหล็ก และ จ.เมืองสาต ประเทศพม่าหรือเมียนมาในปัจจุบัน
เดิมทียาบ้าใช้หัวเชื้อเมทแอมเฟตามีนเป็นสารตั้งต้น ต่อมาพบว่ามีเคมีภัณฑ์ เช่น อีเฟดรีน และซูโดอีเฟดรีนเข้ามาเป็นส่วนผสมหลักด้วย นอกจากนี้ยังพบ เฟนีล-2-โพรปาโนน ที่ใช้ในการผลิตแอมเฟตามีน และอุตสาหกรรมน้ำยาทำความสะอาดเข้ามาผสมโรง และที่น่าตกใจ คือ หนึ่งในสารเคมีที่ใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้า รวมทั้งยาไอซ์ คือ โซเดียมไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ว่า ทำไมปัจจุบันถึงมีคนเสียสติจากการเสพยาบ้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเสพสารเคมีที่มีอันตรายต่อระบบประสาทสมองเข้าไปนั่นเอง
*****
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม
