อุตรดิตถ์ เปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า ขับเคลื่อน Soft Power สู่การพัฒนาจังหวัดคุณธรรมและพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยว

อุตรดิตถ์ เปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า ขับเคลื่อน Soft Power สู่การพัฒนาจังหวัดคุณธรรมและพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยว

 

วันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 เวลา 09.00น. นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานเปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า ณ วัดกกต้อง ตำบลฟากท่า อำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวรายงาน และมี สส.วารุจ ศิริวัฒน์ พรรคเพื่อไทย อุตรดิตถ์ เขต 2 พร้อมด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าส่วนราชการ สภาวัฒนธรรมจังหวัด และประชาชนเข้าร่วมงาน การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมการขับเคลื่อนชุมชนสู่การพัฒนาจังหวัดคุณธรรม เพื่อพัฒนาต่อยอดและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย พิธีสักการะบูชาพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา โบราณสถานในพื้นที่ /การถวายบายศรีพญานาคของแต่ละสาย / การรำถวายพ่อปู่ แม่ย่าพญานาค/ พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญอุทิศส่วนกุศล /กิจกรรมเปิดแหล่งท่องเที่ยวพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา / การเสวนาหัวข้อ “ศรัทธาพญานาคสู่วิถีฟากท่าและลายผ้า”/ การสาธิตและการแสดงศิลปวัฒนธรรม/ การปฏิบัติธรรม และการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม

การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการนำทุนทางวัฒนธรรม หรือ “Soft Power” ที่โดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ของอำเภอฟากท่าและของจังหวัดอุตรดิตถ์ ความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค มาพัฒนาต่อยอด สร้างเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้กว่าพันคน สร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์ สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงวัฒนธรรม และสอดคล้องกับ 12 เป้าหมายร่วมของจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ว่า “อุตรดิตถ์เที่ยวได้ทั้งปี 365 วัน ที่อุตรดิตถ์”

สำหรับเรื่องเล่าตำนานพญานาคที่ฟากท่านี้ คุณบุญเทียน ภูมิปัญญาบ้านกกต้อง เล่าว่า โบราณสถานพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา เป็นเจดีย์พุทธสถานบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระอุระ ของพระพุทธเจ้า ที่มีมานาน 300 กว่าปี เป็นเมืองชายแดนของกรุงอยุธยาสืบเนื่องมาสยามประเทศ ซึ่งมีถ้ำและมีพ่อปู่แม่ย่าพญานาค ปกป้องคุ้มครองดูแลเจดีย์พระธาตุอยู่ คือ เจ้าปู่สุวรรณนาคราช เป็นพญานาคราช ที่อยู่ในตระกลูวิรูปักขะ พระวรกายสีทอง เศียรและปล้องพระนาภีสีทอง เป็นพญานาคราชที่ดูแลและปกครองอาณาเขตลุ่มแม่น้ำยมและน่าน อดีตเคยเป็นสหาย กับ เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ แต่มีเหตุให้ทั้งสองพระองค์ บาดหมางกัน เพราะแข่งขันกันขุดลำน้ำ เ้จ้าปู่ศรีสุทโธฯ ขุดแม่น้ำโขง และเจ้าปู่สุวรรณนาคราช ขุดแม่น้ำน่าน ใครชนะได้ปลาบึกไปครอง ผลปรากฏว่า เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ ชนะ ในแม่น้ำโขงจึงมีปลาบึก เพราะขุดได้ตรง ใหญ่และยาวกว่า ส่วนแม่น้ำน่าน ขุดยากเพราะคดเคี้ยวตามทิวภูเขา จึงแคบและสั้นกว่า และในส่วนของพระมเหสีคือนางพญาแก้วคำกลองนาคิณี หรือเจ้าย่าแก้วคำกลองนาคิณี เป็นพญานาคิณีที่อยู่ในตระกลูฉัพพะยาปุตตะ มีพระวรกายสีม่วงเม็ดมะปราง บางครั้งอาจจะเห็นเป็นสีขาว – ทองในช่วงจำศีล มีพระเศียรและปล้องพระนาภีสีทอง เป็นบุตรขององค์กาลนาคราช พ่อปู่แม่ย่าจึงดูแลและปกครองอาณาเขตลุ่มแม่น้ำยมและน่าน เป็นกษัตริย์ปกครองนาคราชฝั่งภาคเหนือทั้งหมด

 

 

 

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *