เชียงใหม่ กองกำลังยึดผืนป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

เชียงใหม่ กองกำลังยึดผืนป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ตำรวจ ปทส.สนธิกำลัง ตชด.33 ,เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงใหม่ ,เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ฯ ตำรวจภูธร ภาค 5 ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอดอยสะเก็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ดอยสะเก็ด จับนายทุนบุกยึดผืนป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วยของกลางไม้สักท่อน จำนวน 28 ท่อน ไม้สักแปรรูป จำนวน 8 แผ่นและไม้ แดง แปรรูป จำนวน 40 แผ่นพร้อมผู้ต้องหา 1 คน ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นได้มีบุคคลอ้างว่าเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่โทรศัพท์มาขอเคลียร์ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดบุกยึดพื้นที่ป่าป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ ขนิน พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด, ลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ,เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงใหม่ ,เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ฯ ตำรวจภูธร ภาค 5 ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอดอยสะเก็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ดอยสะเก็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ป่า โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง บ้านโป่งกุ่ม ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ร่วมกันจับกุมตัวนายชาติชาย มูลทา อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด ขณะขับขี่รถยนต์ ออกมาจากพื้นที่ป่า จากการสอบสวนทราบว่ากำลังจะเดินทางไปก่อสร้างทางเข้าพื้นที่สวนของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นพบ ไม้สักท่อน จำนวน 28 ท่อน,ไม้สักแปรรูป จำนวน 8 แผ่น,ไม้ แดงแปรรูป จำนวน 40 แผ่นเลื่อยโซ่ยนต์ และเลื่อยวงเดือน 3 เครื่องและอุปกรณ์แปรรูปไม้อีกหลายรายการโดยชายชาติชายได้ ให้การว่าได้แผ้วถางพื้นที่ป่าดังกล่าวเพื่อยื่นขอเอกสารสิทธิ์ คทช.ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง จากการตรวจสอบพบว่า 1- 0 – 83 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดที่แปลงดังกล่าว และจะแจ้งข้อหา ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , มีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , มีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ดต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าริมลำน้ำแม่ลายในเขตสวนป่าแม่ลาย ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง พื้นที่บ้านโป่งกุ่ม ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด มีการได้เข้าไปทำการบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ป่าและทำการตัด โค่นต้นไม้สักและไม้แดงที่ขึ้นอยู่และปลูกขึ้นไว้ในป่าบริเวณดังกล่าว แล้วทำการแปรรูปไม้แล้วนำเอาไม้ท่อนและไม้แปรรูปที่ลักลอบตัดมาปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบของกลางได้มีบุคคลหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรมป่าไม้โทรศัพท์มาหานายชาติชาย และขอคุยกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อขอเคลียร์โดยอ้างว่าผู้ใหญ่หลายคน แต่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธ และยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดซึ่งคาดว่านายชาติชาย ผู้ต้องหาเคยเป็นอดีตลูกน้องของอดีตข้าราชการคนดังกล่าว

ขณะทีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด, ลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม.13 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.1 ได้ ตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุกพื้นที่ป่าท่าช้าง-แม่ขนิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ ขนิน บ้านดอยล้อม ต.น้ำแพร่ อ.หางดง พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุก เนื้อที่รวม 2 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา และมีการล้อมรั้วก่อสร้างแท็งค์เก็บน้ำเตรียมก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง พร้อมกันนี้ได้จับกุมตัวนายอัมพร เวียนรอบ อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ต.น้ำแพร่ อ.หางดง คนงานสวน และนางดรุณี กันธมาลา อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าของที่ จากการสอบสวนทราบว่าได้ซื้อที่แปลงดังกล่าวมาจากชาวบ้านในราคา 1 ล้านบาทโดยถูกหลอกว่าเป็นที่ สปก.สามารถทำกินได้ ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท่าช้างและป่าแม่ ขนิน ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนที่แปลงดังกล่าวเริ่มมีการแผ้วถาง และทำรั้วไว้และเจ้าหน้าที่เคยเตือนไปว่าเป็นพื้นที่ป่า แต่ก็มีการนำมาหลอกขายให้ชาวบ้านรายอื่นอีกต่อหนึ่ง ต่อมาร่วมกันก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , ร่วมกันยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ก่อนจะนำตัวส่ง สภ.หางดง ดำเนินคดีต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *