#สุดสลดตาวัย70ปีปั่นรถจักยานออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อจะไปวัด จนถึงบ่ายลูกชายแอะใจพ่อยังไม่กลับออกตามหาเจอรถจักรยานปั่นล้มอยู่พบหมาที่พ่อเลี้ยงนอนเฝ้าอยู่

#สุดสลดตาวัย70ปีปั่นรถจักยานออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อจะไปวัด จนถึงบ่ายลูกชายแอะใจพ่อยังไม่กลับออกตามหาเจอรถจักรยานปั่นล้มอยู่พบหมาที่พ่อเลี้ยงนอนเฝ้าอยู่ ลงไปดูพบว่าเสียชีววิตแล้ว
ร.ต.อ.ชัยชาญ ประเสริฐวงษ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.พนัสนิคม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพนัสนิคม ว่ามีคนพบศพผู้เสียชีวิตในป่าหญ้าข้างทางลูกลังเรียบคลองส่งน้ำ หมู่ 6ตำบลนาเริกอำเภอพนัสนิคมจังหวัดชลบุรีหลังรับแจ้งจึงรีบรุดเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแพทย์เวรโรงพยาบาลพนัสนิคมและสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียงพอเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนดินลูกลังข้างทางเป็นป่าหญ้ามีท้องนาและเป็นคลองน้ำ ช่วงบริเวณบนถนนพบรถจักรยานสีชมพูด้านหลังมีหม้อผูกติดอยู่ และบริเวณป่าหญ้าห่างจากถนนประมาณ 2เมตร พบศพนายอุดม เข็มแจ่ม อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่29 หมู่ 5 ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนตะแครง สวมเสื้อเชิ้ต ลายดอก สวมกางเกงขาสั้นสีเทา ในตัวพบเงินจำนวน 70บาทอยู่ในกระเป๋ากางเกงตรวจสอบที่บริเวณแขนซ้ายมีรอยหนังถลอกเหมือนถูกแสงแดดเผาจนลอกตามตัวไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างไดและยังพบสุนัขพันธ์ไทยสีน้ำตาลที่นอนเฝ้าศพอยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีเศร้าซึมเหมือนรู้ว่าเจ้าของจากไปแล้วซึ่งคาดว่าน่าจะนอนเฝ้าศพอยู่ตั้งแต่เช้าจากการสอบถามนายเทียนชัย เข็มแจ่ม อายุ32ปีซึ่งเป็นลูกชายที่ออกตามหาพ่อและยังเป็นคนพบศพคนแรกเล่าว่าเมื่อช่วงตอนเช้าวันนี้พ่อได้บอกกับตนว่าจะออกไปวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนักเพื่อจะไปเอาข้าวจากพระเพื่อนำมากินและวันนี้พ่อก็จะเอาหม้อไปคืนด้วยซึ่งตนเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะพ่อมักจะปั่นรถจักรยานไปวัดเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วและตนก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาจับปลาไหลเหมือนอย่างที่เคยทำแต่พอเวลาผ่านไปถึงช่วงบ่าย4โมงตนเองกลับมาบ้านและไม่เห็นพ่ออยู่ที่บ้านจึงแปลกใจเลยขี่รถออกมาตามเส้นทางที่พ่อปั่นรถจักรยานมา และก็ได้มาพบรถจักรยานของพ่อล้มคว่ำอยู่จึงรีบจอดรถลงมาดูและมองไปที่ก่อต้นหญ้าก็เห็นว่าเป็นทางจึงเข้ามาดูก็เห็นร่างของพ่อนอนอยู่จึงรีบเข้ามาเรียกแต่พ่อไม่ตอบและก็พบว่าพ่อเสียชีวิตแล้วจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าวเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานคาดว่าผู้ตายอาจจะมีโรคประจำตัวโดยที่ตัวเองไม่รู้และปั่นรถจักรยานมาในช่วงที่อากาศร้อนทำให้เกิดวูป จึงทำให้ร่างกายทนไม่ไหว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ และจะต้องส่งศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้งต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *