#กฟผ.จับมือเทศบาลเมืองน่าน และพันธมิตร ปูทางเมืองน่านสู่เมืองอัจฉริยะ
เปิด “น่าน Light Up & Smart City” พร้อมจัดเทศกาลท่องเที่ยววันแม่#
วันที่ 4 สิงหาคม 2566
กฟผ. จับมือเทศบาลเมืองน่าน และพันธมิตร ปูทางเมืองน่านสู่เมืองอัจฉริยะ
เปิด “น่าน Light Up & Smart City” พร้อมจัดเทศกาลท่องเที่ยววันแม่ 11 – 14 สิงหาคม นี้
กฟผ. ร่วมกับเทศบาลเมืองน่าน และภาคีเครือข่าย เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่านให้ยั่งยืน เตรียมเปิดตัว “น่าน Light Up & Smart City” พร้อมชวนเที่ยวเทศกาลท่องเที่ยววันแม่ ชม ช้อป แชะ แชร์ ที่ข่วงเมืองน่าน 11 – 14 สิงหาคม นี้
วันนี้ (4 สิงหาคม 2566) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วยเทศบาลเมืองน่าน และภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการขับเคลื่อนเมืองน่านสู่เมืองอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว “น่าน Light Up & Smart City” ซึ่งจะมีการเปิดตัวการจัดเทศกาลท่องเที่ยววันแม่ ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์เมืองน่าน” ระหว่างวันที่ 11 – 14 สิงหาคม นี้ ณ ข่วงเมืองน่าน จ.น่าน
น.ส.นพวรรณ กาญจนะวรรณ รองผู้ว่าการบริหาร กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. มีความร่วมมือด้านสังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม กับจังหวัดน่านมากว่า 20 ปี ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม โครงการกล้าดี สำหรับในปี 2566 กฟผ. ได้ร่วมกับพันธมิตร ดำเนินโครงการขับเคลื่อนเมืองน่านสู่เมืองอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว “น่าน Light Up & Smart City” โดยนำระบบไฟฟ้าส่องสว่างประสิทธิภาพสูงชนิด LED มาติดตั้งยังศาสนสถานและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.น่าน ได้แก่ วัดมิ่งเมือง วัดศรีพันต้น วัดสวนตาล และซุ้มอุโมงค์ลีลาวดีที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ซึ่งนอกจากเพิ่มความปลอดภัยแล้ว เทคโนโลยี LED ยังสร้างความสวยงามยามค่ำคืน ซึ่งต่อยอดจากที่ กฟผ. ได้นำร่องดำเนินการไปแล้วที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2565 พร้อมทั้งเพิ่มการสนับสนุนระบบขนส่งไฟฟ้า หรือ Smart Mobility ได้แก่ รถรางชมเมืองระบบไฟฟ้า รถสามล้อระบบไฟฟ้า ระบบอัดประจุไฟฟ้า (AC Charger) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ตามนโยบาย EGAT Carbon Neutrality ของ กฟผ. ซึ่งคาดว่าจะสามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 4,626 หน่วยต่อปี ลดการปล่อย CO2 ประมาณ 6.3 ตันต่อปี และส่งเสริมเศรษฐกิจใน จ.น่าน ประมาณ 1.7 ล้านบาทต่อปี
นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า เมืองน่านมีแนวทางการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวหลากหลายมิติ เพื่อมุ่งสู่การเป็น “เมืองน่านน่าอยู่” โครงการฯ นี้ จึงนับเป็นการสนับสนุนให้การพัฒนาเมืองน่านเป็นรูปธรรมมากขึ้น โครงการฯ นี้ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือในหลายภาคส่วน ทั้ง กฟผ. เทศบาลเมืองน่าน และภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย สำนักศิลปากรที่ 7 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) สำนักงานพื้นที่พิเศษ 6 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน โดยจะมีกิจกรรมเปิดตัวโครงการฯ เทศกาลท่องเที่ยววันแม่ ระหว่างวันที่ 11 – 14 สิงหาคม นี้ และภายหลังเปิดตัวโครงการฯ จะมีการเปิดไฟส่องสว่าง LED บริเวณศาสนสถานเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ อันจะเป็นการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
(มีข่าวต่อหน้า 2)
ด้าน นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานน่าน กล่าวว่า ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของเมืองน่านที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมและวิถีชุมชน ททท. และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวใน จ.น่าน ให้สามารถรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของทุกคน ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ พร้อมวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยมีแนวทาง การส่งเสริมการตลาด เช่น ส่วนลดค่าที่พัก ส่วนลดค่าอาหาร คูปองรถรางชมเมืองน่านเส้นทางพิเศษ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวให้กับชุมชน โอกาสนี้ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศให้มาเยี่ยมชมเสน่ห์เมืองน่านไปด้วยกัน
สำหรับเทศกาลท่องเที่ยววันแม่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 14 สิงหาคม 2566 ณ ข่วงเมืองน่าน โดยมีกิจกรรมไฮไลต์ ประกอบด้วย ชม นั่งรถรางชมความงามของการ Light Up วัดและสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนด้วยเทคโนโลยี LED พร้อมชมการแสดงจากคุณตั๊กแตน ชลดา ในวันที่ 12 สิงหาคม และการแสดงพื้นเมือง ณ เวทีกลาง ช้อป เลือกซื้อสินค้าชุมชนของ กฟผ. และสินค้าพื้นเมือง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แชะ ถ่ายภาพเก็บภาพความประทับใจ และส่งประกวดในกิจกรรมประกวดภาพถ่าย แชร์ ร่วม Workshop สืบสานงานหัตถศิลป์ถิ่นน่านนคร กิจกรรมการละเล่นต่าง ๆ ในพื้นที่ของแต่ละวัด พร้อมร่วมทำบุญ เป็นต้น
…บุญยงค์ สดสอาด/ทีมข่าวสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน